หุ้นเช้านี้เปิดร่วงกว่า 3 จุด ตามตลาดต่างประเทศ

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นเปิดร่วงกว่า 3 จุด หลังมติเฟดคงดอกเบี้ยตามคาด ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานาน ด้านปัจจัยในประเทศ บอนด์ยีลด์ถูกกดดันจากบอนด์ยีลด์สหรัฐทำนิวไฮต่อเนื่อง จับตากนง.ประชุมปลายเดือนนี้ ด้าน “กลุ่มพลังงาน” ลดความร้อนแรงหลังราคาน้ำมันดิบเริ่มอ่อนลง วางแนวรับวันนี้1,500-1,490 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 21 ก.ย.2566 ดัชนีเปิดปรับตัวลดลง ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ระดับ 1,504.73 จุด ลดลง 3.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,467.17 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส คาด SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัวลงต่อเนื่อง โดยมีฐานแนวรับหลักในรอบก่อนหน้าที่ 1,500-1,490 จุด โดยถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศหลังผลการประชุม FED โดยเฉพาะ Dot Plot ออกมา Hawkish กว่ารอบการประชุมเดือน มิ.ย. โดยมองดอกเบี้ยปี 2024 จะยืนสูงกว่าที่คาดการณ์เดิม ทำให้ Bond Yield และ Dollar Index ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แม้จะมีการปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2023-24 ขึ้น แต่และปรับลดคาดการณ์ Core PCE ปี 2023 ลง แต่โดยรวมผลการประชุมยังกดดันสินทรัพย์เสี่ยง

ส่วนปัจจัยในประเทศยังคงถูกกดดันจากประเด็น Bond Yield เช่นกัน โดยอายุ 10 ปีขยับขึ้นทำ New High ต่อเนื่องที่ 3.26% จากทั้งโอกาสที่กนง.จะยังขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 2.5% ในการประชุมปลายเดือนนี้ รวมถึงตลาดกังวลระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP จะทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต้องใช้งบประมาณสูง โดยเฉพาะเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ซึ่งอาจมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะถูกปรับลด Outlook จาก Credit Rating Agency

กลุ่มพลังงานคาดว่าลดความร้อนแรงหลังราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับลงและมีความเสี่ยงกระทบจากนโยบายภาครัฐที่ต้องการลดราคาพลังงานในประเทศ ส่วนกลุ่มที่คาดว่าจะยังแกว่งตัวได้แข็งกว่าตลาด ได้แก่ ธนาคาร สื่อสารฯ การแพทย์ จากแนวโน้มกำไร 3Q23 ที่โดดเด่น ส่วนระยะยาวยังมองบวกต่อกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคที่มีโอกาสฟื้นตัวในระยะถัดไปจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมาใน 4Q23-2024

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่มีโมเมนตัมกำไร 3Q23 แข็งแกร่ง, ถือลงทุนต่อเนื่องหลังสะสมบริเวณ 1,500+- จุดไปแล้ว

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

BDMS ราคาอยู่ที่ 26.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.94% มูลค่าการซื้อขาย 340.91 ล้านบาท
SINO ราคาอยู่ที่ 2.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาท หรือ 4.66% มูลค่าการซื้อขาย 192.39 ล้านบาท
AOT ราคาอยู่ที่ 69.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.36% มูลค่าการซื้อขาย 157.89 ล้านบาท
COCOCO ราคาอยู่ที่ 10.20 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 132.08 ล้านบาท
PTT ราคาอยู่ที่ 32.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -1.50% มูลค่าการซื้อขาย 101.94 ล้านบาท