“FSS”มองกลุ่มพลังงานต้น-กลางน้ำบวก อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบ-ค่ากลั่นยั่นยืนสูง

HoonSmart.com>>ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) มองกลุ่มพลังงานต้น-กลางน้ำ ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่นที่ยังยืนสูง ด้านโรงไฟฟ้าขนาดเล็กกระทบหนักจากค่าไฟลด ขณะที่หมวดการแพทย์-สื่อสารฯปรับตัวได้แข็งกว่าตลาดต่อเนื่องจากแนวโน้มกำไร 3Q23 คาดแข็งแกร่งกว่าตลาด ให้แนวรับหลัก SET Index วันนี้ที่ 1,520-1,515 จุด

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ได้เปลี่ยนจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นแกว่งออกข้างแล้วในระยะกลางหลังไม่สามารถยืนแนวรับหลักในกรอบแนวโน้มบริเวณ 1,540+- จุดได้ โดยมีแนวรับหลักที่ 1,520-1,515 จุด

ปัจจัยกดดันยังคงมาจากความกังวลว่า FED อาจขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกครั้งปีนี้ และอาจปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้าน้อยกว่าที่เคยประเมิน โดยต้องติดตาม Dot Plot หลังการประชุมคืนวันพุธนี้

ส่วนปัจจัยในประเทศ Bond Yield ยังคงทรงตัวสูงเช่นกันโดย 10 ปียืนเหนือ 3% ซึ่งสะท้อนว่าตลาดประเมินกนง.มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 2.5% เช่นกันในการประชุมปลายเดือนนี้

ระยะสั้น เรามองกลุ่มที่จะแกว่งตัวแข็งแกร่งกว่าตลาด ได้แก่ พลังงานต้น-กลางน้ำที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่นที่ยังยืนสูง ขณะที่กลุ่มการแพทย์-สื่อสารฯปรับตัวได้แข็งกว่าตลาดต่อเนื่องจากแนวโน้มกำไร 3Q23 ที่คาดแข็งแกร่งกว่าตลาด

ขณะที่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเรายังคงมองว่ามีโอกาสฟื้นตัวในระยะถัดไปจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐทั้งการลดค่าไฟ-น้ำมัน ขึ้นค่าแรง
และเงินดิจิทัลที่จะออกปีหน้า กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่มีโมเมนตัมกำไร 3Q23 แข็งแกร่ง//ถือลงทุนต่อเนื่องหลังสะสมบริเวณ 1,500+- จุดไปแล้ว

ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ราคาหมู/ไก่ปรับลง เป็นลบต่อกลุ่มเนื้อสัตว์ แต่เป็นบวกต่อร้านอาหาร วานนี้สนง.ศก.การเกษตรประกาศราคาหมูปรับลงแรงเป็น 66 บาท/กก. จากวันก่อนหน้าที่ 70 บาท ส่วนราคาไก่ปรับลง 1 บาท เหลือ 40 บาท/กก. มาจากปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น กอปรกับต้นทุนวัตถุดิบเริ่มปรับลดลง
ส่วนการส่งออกไก่ไม่สดใสนัก ทำให้ผลผลิตไก่เริ่มเผชิญปัญหา oversupply (-) ราคาเนื้อสัตว์ผันผวนเร็วและเป็นโซนราคาที่ไม่ทำกำไร คาดว่าผลการดำเนิน 3Q23
กลุ่มเนื้อสัตว์ CPF BTG TFG จะยังขาดทุนต่อเนื่อง (แต่น่าจะขาดทุนลดลง q-q สำหรับ CPF BTG) ส่วน GFPT คิดว่าไม่ขาดทุน แต่มีโอกาสที่กำไรจะลดลง q-q สวนทางฤดูกาล

(+) ขณะที่มองเป็นบวกต่อกลุ่มร้านอาหาร M ZEN โดย M ไม่ได้ล็อกราคาหมูไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้ได้รับผลดีจากราคาหมูที่ปรับลงทันที

(-) กลุ่มโรงไฟฟ้า รัฐบาลประกาศลดค่าไฟฟ้าลงอีก 0.11 บาท/หน่วย เป็น 3.99 บาท/หน่วย (เดิม 4.10) มีผลทันทีในรอบบิลเดือนก.ย. ไปจนถึง ธ.ค. 2023 ซึ่งจะส่งผลลบต่อกำไรของหุ้นโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (SPP) เข่น BGRIM และ GPSC ตามลำดับ การปรับลดค่าไฟดังกล่าวเชื่อว่าเป็นมาตรการช่วยบรรเทาค่าครองชีพของประชาชนของภาครัฐ และคาดว่าค่า Ft อาจถูก cap หรือถูกแทรกแซงเป็นเวลา 3-6 เดือน ดังนั้นเราจึงคาดกำไรของ BGRIM และ GSPC จะยังถูกกดดันไปจนถึงปี 2024 เมื่อต้นทุนราคาก๊าซกลับสู่ภาวะปกติ

อย่างไรก็ตามราคาหุ้นกลุ่มไฟฟ้าได้ปร้บลงสะท้อนปัจจัยนี้ไปมากแล้ว ขณะที่กำไร GULF จะถูกกระทบเพียง 2% ของกำไรทั้งปี 2023 ดังนั้นเราจึงเลือก GULF เป็น Top pick จากกำไรที่แข็งแกร่ง ราคาเป้าหมาย 52.30 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) TISCO คาดกำไรสุทธิ 3Q23 ที่ 1.86 พันลบ. +0.4% q-q, +12% y-y หากไม่รวมการปรับเพิ่มของ ECL และ Credit Cost คาด PPOP จะอยู่ที่ 2.52 พันลบ. +6.7% q-q และ +8.5% y-y จากการเติบโตของสินเชื่อทุกกลุ่มธุรกิจ (ไม่รวมสินเชื่อบ้าน) นำโดยสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะกลุ่ม high-yield ขณะที่คาด NIM ทรงตัวอยู่ที่ 5.02% q-q แต่ลดลงจาก 5.32% ใน 3Q22 จาก cost of funds ที่เพิ่มขึ้น ด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังไม่ค่อยแข็งแรง ซึ่งเป็นไปตามที่ธนาคารคาด โดย NPLs ปรับขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 2.28% จาก 2.20%ใน 2Q23 ขณะที่มีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นแต่ธนาคารเชื่อว่าน่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในปีหน้า คาดกำไรปี 2023 ที่ 7.46 พันลบ.
+3.3% y-y คงราคาเป้าหมาย 111 บาท และคาดให้ Dividend Yield 8-9% ต่อปี
ยังแนะนำ “ซื้อ”