HoonSmart.com>> หุ้นปตท.(PTT) ร่วง บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี มองอาจมีความเสี่ยง รัฐบาลขอให้ช่วยแบ่งเบาภาระราคาค่าก๊าซ เพื่อลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาท/หน่วย รวม 4 เดือน กระทบ EBITDA ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” จากเดิม “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 36 บาท
ราคาหุ้นบริษัทปตท. (PTT) ปรับตัวลง 1 บาท หรือ -2.86% ซื้อขายที่ 34 บาท ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายสูงสุดประจำวันที่ 3,730.62 ล้านบาท ของวันที่ 18 ก.ย. 2566 โดยฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี มอง PTT อาจมีความเสี่ยง หากรัฐบาลขอให้ช่วยแบ่งเบาภาระราคาพลังงาน ตามนโยบายประชานิยมของรัฐบาลใหม่ จึงปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” จากเดิม “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 36 บาท
ครม.อนุมัติให้ลดค่าไฟฟ้างวดก.ย.-ธ.ค.2566 ลงเหลือ 3.99 บาท/หน่วย ขณะที่รมว.พลังงานระบุว่า จะลดต้นทุนค่าก๊าซโดยตรึงราคา pool gas ไว้ไม่เกิน 305 บาท/mmbtu ฝ่ายวิจัยซีจีเอสฯมองว่า PTT อาจต้องรับภาระส่วนต่างระหว่างต้นทุนก๊าซที่แท้จริงและเพดานราคา และยังไม่ชัดเจนว่า PTT จะได้รับเงินชดเชยค่าใช้จ่ายดังกล่าวหรือไม่
ทั้งนี้กรณีที่ PTT ไม่ได้รับเงินชดเชยดังกล่าว ฝ่ายวิจัยซีจีเอสฯคาดว่า ผลกระทบต่อ EBITDA ของ PTT ในปี 2566 จะอยู่ที่ราว 1.48 หมื่นล้านบาท ส่วนกรณีที่กกพ. เสนอใช้กลไกราคา “Single Pool Gas Price”นั้น ฝ่ายวิจัยฯมองว่าจะทำให้ต้นทุนผู้ผลิตไฟฟ้าลดลง 23 เหรียญสหรัฐ/mmbtu และคาดว่าจะทำให้ EBTIDA ของ PTT หายไปราว 2.66 หมื่นล้านบาทในปี 2567 ซึ่งในกรณีนี้ PTT อาจต้องปรับราคาขายอีเทนในสัญญาที่ทำไว้กับ PTTGC เพื่อร่วมกันแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนกรณีที่ครม.อนุมัติให้ตรึงราคาขายปลีกก๊าซ LPG ที่ 423 บาท/ หน่วยในเดือนต.ค.-ธ.ค. 2566 เงินอุดหนุนสำหรับมาตรการดังกล่าว จะมาจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จึงไม่มีผลกระทบทางการเงินต่อ PTT อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถมองข้ามความเป็นไปได้ที่รัฐอาจจะขอให้ PTT ช่วยอุดหนุนราคา LPG ให้กับผู้ใช้ภายในประเทศ หากสถานะทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯแย่ลง อาจทำให้ความเสี่ยงต่อการดำเนินงานของ PTT สูงขึ้น
ฝ่ายวิจัยซีจีเอสฯ จึงปรับลดคำแนะนำหุ้น PTT เป็น “ถือ” จาก“ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 36 บาท โดย upside risk จะมาจากต้นทุนก๊าซนำเข้าต่ำกว่าคาด ส่วน downside risk จะมาจากความต้องการก๊าซในประเทศที่ต่ำกว่าคาด