HoonSmart.com>>เอสซีบี เอกซ์ (SCB) ดีเกินคาด ไตรมาส 3/67 โกยกำไร 10,940.95 ล้านบาท เติบโต 13 % รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 32,635 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% รายจ่ายดำเนินงานลดลง 4.8% ตั้งสำรองลดลง 10.4% ไม่มีพิเศษเหมือนปีก่อน NPLs เพิ่มเล็กน้อยอยู่ที่ 3.4% ด้านกำไร 9 เดือนแรกปีนี้รวม 32,236.31 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.9%
บริษัท เอสซีบี เอกซ์ (SCB) เผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 3/2567 มีกำไรสุทธิ 10,940.95 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ 3.25 บาท เพิ่มขึ้น 13.2%จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 9,663.10 ล้านบาท หรือ 2.87 บาทต่อหุ้น รวม 9 เดือนแรกปีนี้ กำไรทั้งสิ้น 32,236.31 ล้านบาท หรือ 9.57 บาท ลดลงเล็กน้อย 0.9%เทียบกับกำไรสุทธิ 32,526.60 ล้านบาทหรือ 9.66 บาทต่อหุ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุที่มีกำไรงวดไตรมาส 3/ 2567 ดีขึ้นมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 32,635 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% เป็นผลจากการขยายตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ในขณะที่ยอดสินเชื่อโดยรวมลดลงเล็กน้อยในอัตรา 0.9% จากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายรอบด้าน ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ มีจำนวน 9,985 ล้านบาท ลดลง 7.5% ซึ่งเป็นผลหลัก ๆ มาจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันภัยและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ
ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวน 17,606 ล้านบาท ลดลง 4.8% และมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ที่ไม่รวมผลกระทบจากการขายแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี Robinhood อยู่ที่ 40.9%
บริษัทฯ ตั้งเงินสำรองลดลง 10.4% จากปีก่อน เนื่องจากไม่มีการตั้งสำรองพิเศษเพื่อรองรับความเสี่ยงจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ดังเช่นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพคงอยู่ในระดับสูงที่ 163.9%
คุณภาพของสินเชื่อโดยรวมอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 อยู่ที่ 3.4% ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.3% ในปีก่อน เงินกองทุนตามกฎหมายของบริษัทฯ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 19.0%
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยโดยรวมยังคงฟื้นตัวอย่างช้า ๆ โดยมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากอุทกภัยในหลายพื้นที่ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง มุ่งเน้นการเติบโตที่มีคุณภาพและเสริมความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน
ในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมกับสองธนาคารดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาค ได้แก่ KakaoBank และ WeBank ยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า Virtual Bank จะเข้ามาช่วยขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน อีกทั้งยังส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขายกิจการแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี Robinhood ให้กับกลุ่มผู้ลงทุนซึ่งนำโดยบริษัท ยิบอินซอย ภายใต้เจตนารมณ์ที่ต้องการส่งต่อแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีของคนไทยเพื่อคนไทยต่อไป ทั้งนี้ การขายกิจการดังกล่าวเป็นไปตามกรอบการรักษาเงินที่รอบคอบ เพื่อสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน