HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดลบ 17 จุด Nasdaqร่วง 1% จากการร่วงลงของออราเคิล หลังผลประกอบการผิดคาด ส่งผลกดดันกลุ่มเทคโนโลยี ส่วนหุ้นพลังงานปรับตัวขึ้นหลังราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแรงเกิน 1% นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อเดือนส.ค.เพื่อประเมินแนวโน้มการตัดสินใจของเฟด ด้านหุ้นยุโรปปรับตัวลง จับตาการประชุม ECB เทรดเดอร์ให้น้ำหนัก 50% ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 12 ก.ย. 2566 ที่ 34,645.99 จุด ลดลง 17.73 จุด หรือ 0.05% และดัชนี Nasdaq ลดลง 144.28 จุด, -1.04% จากการร่วงลงของออราเคิล หลังรายงานผลประกอบการผิดจากที่คาด ส่งผลกดดันกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,461.90 จุด ลดลง 25.56 จุด, -0.57%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,773.61 จุด ลดลง 144.28 จุด, -1.04%
หุ้นออราเคิลลดลง 13.5% เป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2002 หลังยอดขายไตรมาส 1 ของปีบัญชีต่ำกว่าที่คาดและเปิดเผยคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นที่มีธุรกิจคลาวด์รายอื่นพากันลดลง ทั้งหุ้นแอมะซอน หุ้นอัลฟาเบท และหุ้นไมโครซอฟต์ ต่างลดลงกว่า 1%
คิม ฟอร์เรสท์ ผู้ก่อตั้ง Bokeh Capital Partners กล่าวว่า ออราเคิลไม่ใช่หุ้นที่มีขนาดใหญ่มาก แต่สะท้อนการใช้จ่ายของธุรกิจและธุรกิจขนาดใหญ่ ทำให้นักลงทุนผิดหวัง และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กดดันทั้งดัชนี Nasdaqและ S&P
หุ้นแอปเปิ้ลลดลง 1.7% หลังเปิดตัวไอโฟนใหม่ iPhone 15
ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นไปที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2022
ทำให้กลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเชฟรอนบวก 1.9% และหุ้นเอ็กซอนโมบิลบวก 2.9%
ขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้นักลงทุนวิตกต่อแรงกดดันเงินเฟ้อ ขณะที่จับตาการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ในวันนี้ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพรุ่งนี้
แม้ดัชนี CPI พื้นฐานจะชะลอตัว แต่คาดว่าต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น นักวิเคราะห์คาดว่า เงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือนและจะเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบรายปี ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐษนจะเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 4.3% จากระยะเดียวกันของปีก่อน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี ซึ่งอ่อนไหวต่อการดำเนินนโนยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับขึ้นไปที่ระดับ 5%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากการร่วงลงของ SAP บริษัทซอฟต์แวร์เยอรมนี หลังบริษัทออราเคิลในสหรัฐคาดการณ์รายได้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)
หุ้น SAP ลดลง 1.8%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกสวนตลาดอื่น จากเงินปอนด์อ่อนค่าหลังข้อมูลแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานอ่อนตัวลงแม้การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างยังแข็งแกร่งในเดือนกรกฎาคม ทำให้ภาพการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษในสัปดาห์หน้ายังไม่ชัดเจน
สเปนรายงานเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ZEW ในเยอรมนีเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนดีกว่าคาดในเดือนกันยายน
นักลงทุนจับตาการประชุมของ ECB ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเทรดเดอร์ให้น้ำหนัก 50% ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 4% พร้อมกับรอตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้เพื่อประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยโลกแตะระดับสูงสุดแล้วหรือไม่
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 455.40 จุด ลดลง 0.81 จุด, -0.18%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,527.53 จุด เพิ่มขึ้น 30.66 จุด, +0.41%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,252.88 จุด ลดลง 25.39 จุด, -0.35%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,715.53 จุด ลดลง 85.46 จุด, -0.54%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 88.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 92.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้ง WTI และ Brent ปิดที่ระดับสูงสุดอีกครั้งนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 หลังกลุ่มประเทศผู้ผลิต OPEC คาดการณ์อุปสงค์ที่แข็งแกร่งในปีนี้และปีหน้า