‘ภากร’ ชี้แจงอัตรากำไรสุทธิ ‘เฉลี่ย’ ไม่ถึง 30-40% ยันค่าฟีตลาดหุ้นไทยต่ำสุดในอาเซียน

HoonSmart.com>>ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ยอมรับผลิตภัณฑ์ของ SET-TSD-TFFX บางตัวมีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 30-40% แต่บางตัวน้อย หรือขาดทุน ทำให้เฉลี่ยไม่ถึง 30-40%  ค่าธรรมเนียมมีทั้งลดถาวร และลดเพื่อจูงใจให้บจ.-บล.ทำงาน ยืนยันค่าเทรดดิ้ง-เคลียริ่งตลาดหุ้นไทยต่ำที่สุดในอาเซียน ส่วนที่มาของรายได้ 7-8 พันล้านบาท ครึ่งหนึ่งมาจากเทรดดิ้ง ส่วนที่เหลือมาจากค่าบริการ-ธุรกิจใหม่ ด้านต้นทุน 5-6 พันล้านบาท ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ว่าจ้างพนักงานเก่งๆมาร่วมพัฒนาตลาด

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ชี้แจง” HoonSmart” กรณี SET และบริษัทในเครือ TSD-TFFX มีอัตรากำไรสุทธิ (เน็ทมาร์จิ้น) สูงถึง 30-40%ต่อปี ว่า อัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยไม่ถูกต้อง โดยยอมรับว่าการให้บริการบางผลิตภัณฑ์สูงขนาดนั้น แต่ก็มีบางรายการที่ขาดทุน หรือได้น้อย เนื่องจากมีการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสร้างสภาพคล่อง สร้างธุรกิจให้โบรกเกอร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนมีผลิตภัณฑ์การลงทุนเพิ่มเติม  ในส่วนของ TSD ค่าเฉลี่ยไม่ได้สูงถึง 40% เพราะค่าใช้จ่ายหลักประมาณ 80% จะต้องส่งไปรษณีย์ ส่วนที่เหลือประมาณ 20% เป็นเรื่องของคนทำงาน

ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียมของตลาดไม่ได้ปรับปรุงมาหลายปี นายภากรกล่าวว่า มีทั้งการปรับลดถาวร  และปรับลดเพื่อเป็นเรื่องแรงจูงใจให้กับผู้ร่วมตลาด เช่น บริษัทจดทะเบียน(บจ.) เข้าร่วมกิจกรรม Opportunity Day : บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุนมากขึ้น  บริษัทสมาชิกหรือโบรกเกอร์ให้ข้อมูล หากทำได้ ให้ส่วนลดถึง 20-30% ทั้งนี้ ตลาดจัดโปรแกรมลดค่าธรรมเนียมทุกปีผ่านบอร์ด

“ผมอยากจะชี้แจงว่าข้อมูลอัตรากำไรสุทธิสูงที่ออกมา มีความคลาดเคลื่อน  แต่เท่าไร ผมบอกไม่ได้ ผมสรุปทุกเดือน ดู efficiency มีโปรแกรมให้ส่วนลดทุกปี ให้แรงจูงใจ  ส่วนต้นทุนของโบรกเกอร์สูง  ก็ไม่ใช่รายจ่ายที่ให้ SET เทียบกับต่างประเทศ  ต้นทุนของตลาดหุ้นไทยต่ำที่สุดในอาเซียน”นายภากรกล่าว

 

สำหรับรายได้ของตลาดหลักทรัพย์จำนวน  7-8,000 ล้านบาท/ปี  ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นเทรดดิ้ง ที่เหลือมาจากค่าบริการ การขาย และธุรกิจใหม่ๆ ขณะที่มีค่าใช้จ่ายประมาณ 5-6,000 ล้านบาท/ปี  มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง ส่วนค่าใช้จ่ายเรื่องคนของตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งต้องหาคนเก่งมาร่วมงาน