HoonSmart.com>>ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้ง (TIPH) เผย 6 เดือนแรกกำไรเติบโต 100% มั่นใจช่วงที่เหลือของปียังดีต่อเนื่อง เดินหน้าขยายการลงทุนธุรกิจสายเทคด้านรับผลิตแอพพลิเคชั่น เทคด้านการศึกษา สุขภาพ วางงบ 250 ล้านบาท หลังบริษัทลูกเปิดขายประกันภัยดิจิทัลสำเร็จเป็นแห่งแรก พร้อมขอใบอนุญาตตั้งบริษัทประกันตามศาสนาอิสลามเต็มรูปแบบ ส่วนต่างประเทศเล็งร่วมทุนธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ฝั่งกัมพูชาคาดว่าจะเปิดดำเนินธุรกิจได้ในต้นปีหน้า
นายสมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัททิพย กรุ๊ป โฮลดิ้ง (TIPH) เปิดเผยว่า ปี 2566 ผลการดำเนินงานของบริษัทดีมากโดย 6 เดือนแรกมีกำไร 1,001 ล้านบาท เติบโต 100% ส่วนเบี้ยประกันภัยเติบโต 12% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น 3.5-4% จึงมั่นใจว่าในช่วงที่เหลือของปีจะยังคงดีต่อเนื่อง
สำหรับ การเติบโตมาจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหลังโควิด ความน่าเชื่อถือของบริษัท และการพัฒนาบริการที่ดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด บริษัท อินชัวร์เวิร์ส (Insurverse)ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ทิพย กรุ๊ป จัดตั้งขึ้นด้วยเงินลงทุน 620 ล้านบาท เพื่อให้ดำเนินธุรกิจประกันภัยดิจิทัลเต็มรูปแบบเป็นแห่งแรกในไทย สามารถขายประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยพรบ.และประกันภัยการเดินทางผ่านดิจิทัลได้แล้ว และในอนาคตจะเป็นเรือธงเจาะตลาดประกันภัยดิจิทัลในอาเซียน
“เรายังคงสนใจลงทุนในธุรกิจสายเทคต่อเนื่อง ตอนนี้ก็กำลังมองหาอยู่ โดยสนใจบริษัทรับผลิตแอพพลิเคชั่น บริษัทที่ทำเทคโนโลยีด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ และเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งวางงบลงทุนไว้ประมาณ 250 ล้านบาท”นายสมพร กล่าว
นายสมพร กล่าวว่า บริษัทจะมีการลงทุนจัดตั้งบริษัทประกันที่ดำเนินงานตามหลักศาสนาอิสลามเต็มรูปแบบ เพื่อขายประกันตะกาฟุล ซึ่งอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) และได้เตรียมทีมงาน สถานที่ ระบบการทำงาน คืบหน้า 70% แล้ว หากได้รับใบอนุญาตนับไปอีก 6 เดือนจะสามารถขายประกันตะกาฟุลได้
รวมถึง ยังอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนกับบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยในลาว โดยจะถือหุ้นในสัดส่วน 10% ของทุนจดทะเบียนเริ่มต้นธุรกิจละ 7 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ที่มีความคืบหน้ามากคือการลงทุนในกัมพูชา ซึ่งทิพย กรุ๊ปถือหุ้น 40% หากเป็นไปตามแผนคาดว่าจะสามารถเปิดทำธุรกิจได้ในต้นปีหน้า
“เราตั้งเป้าปีนี้และปีหน้าจะมีการลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้ออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุนแล้ว 1,000 ล้านบาท ใช้ไปแล้วประมาณ 700 ล้านบาท เหลือ 300 ล้านบาท ถ้าไม่พอก็จะขอออกหุ้นกู้อีกครั้ง เพราะครั้งที่แล้วมียอดจองเกินมากว่า 600 ล้านบาท แสดงว่าหุ้นกู้ของบริษัทเป็นที่สนใจของนักลงทุนดีมาก”นายสมพร กล่าว
นายพุทธา วิริยะบวร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TIPH กล่าวว่า ประกันภัยดิจิทัล Insurverse จะเหมาะกับลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่เติบโตมากับเทคโนโลยี และกลุ่มมิลเลนเนียล อายุระหว่าง 25-39 ปี ที่ชอบความหยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต สามารถเลือกและปรับแต่งความคุ้มครองให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ เช่น เลือกความคุ้มครองตามงบที่มี หรือ ตามความเป็นจริง เช่น ช่วงเวลาไปเที่ยวไม่ได้ใช้รถ ก็สามารถเลือกที่จะหยุดความคุ้มครองบางอย่างได้ ส่วนการทำเคลมก็ทำผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ หรือ ทำเคลมผ่านวิดีโอคอลล์ หรือ จะโทรเรียกพนักงานก็ได้
นายกิตตินันท์ ภู่พงศ์พันธ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินชัวร์เวิร์ส กล่าวว่า ประกันภัยดิจิทัล Insurverse เป็นบริการขายและเคลมสินไหมประกันภัยผ่านออนไลน์ ซึ่งลูกค้าจะได้ส่วนลดเบี้ยประกัน 15% เพราะเป็นการซื้อตรงกับบริษัท โดยมีขั้นตอนไม่ซับซ้อน ใช้ง่าย รวดเร็ว ลูกค้าซื้อและเคลมสินไหมได้ตลอด 24 ช่ั่วโมง โดยคาดว่าปีนี้จะมีลูกค้าประมาณ 3 แสนราย ซึ่งขณะนี้มีประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยพรบ. ประกันภัยการเดินทางบริการแล้ว ต่อไปจะนำประกันอุตบัติเหตุการเดินทาง ประกันสุขภาพ และประกันสัตว์เลี้ยง เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้