ANI อวดครึ่งปีกำไร 431.9 ล้านบ. ยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดหุ้น SET

HoonSmart.com >> ANI ผู้นำธุรกิจตัวแทนขายและบริหารพื้นที่ขนส่งสินค้าทางสายการบิน (GSA) ระดับภูมิภาค อวดครึ่งปี 2566 รายได้ 2,668.6 ล้านบาท กำไรสุทธิ 431.9 ล้านบาท  เดินหน้าขยายเครือข่ายและเข้าตลาดหุ้น SET

นางบี เล็ง โก๊ะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล  (ANI) เปิดเผยว่า  บริษัท ฯ เป็นผู้นำธุรกิจตัวแทนขายและบริหารพื้นที่ขนส่งสินค้า ทางสายการบิน (Cargo General Sales Agent หรือ GSA) ที่มีเครือข่ายให้บริการกับสายการบินชั้นนำกว่า 20 สายการบิน ใน 8 ประเทศประกอบด้วย ไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน เวียดนาม มาเลเซีย กัมพูชา และเมียนมา  และเขตบริหารพิเศษทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และจีน เป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าทางอาการของภูมิภาค จุดหมายปลายทางครอบคลุมมากกว่า 400 แห่งทั่วโลก

ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 มีรายได้รวม 2,668.6 ล้านบาท กำไรสุทธิ 431.9 ล้านบาท เติบโต 17.7%  เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน  ปี 2565  มีรายได้รวม 7,744.1 ล้านบาท เติบโตด้วยอัตราเฉลี่ย (CAGR) 26.5% ต่อปี  กำไรสุทธิ 797.6 ล้านบาท

ปัจจุบันอยู่ระหว่าง ขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 554.738 ล้านหุ้นเศษ หรือ 30% ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้ว   วัตถุประสงค์การระดมทุน ใช้ปรับโครงสร้างทางการเงินจากการซื้อธุรกิจ GSA ในสิงคโปร์และมาเลเซีย ช่วงปลายปี 2565 ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต

ผู้บริหาร กล่าวอีกว่า  ANI เป็นผู้ประกอบธุรกิจ GSA รายใหญ่รายเดียวของประเทศไทย  มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกว่า 23% มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสายการบินชั้นนำยาวนาน ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี ในการให้บริการที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพ ตลอดจนมีความสามารถในการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เช่น ตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้า (Freight Forwarder) ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งเป็นตัวกลางให้แก่ผู้บริโภคทอดสุดท้าย (End User) ผ่านการบริหารจัดการที่นำโดยคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์กว่า 35 ปีในอุตสาหกรรมขนส่งทางอากาศ

นอกจากนี้ ANI ยังมี Ecosystem ที่แข็งแกร่งผ่านความร่วมมือกับบริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์  (III )  ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ANI และเป็นผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจรของประเทศไทย ที่ประกอบธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานขนส่งสินค้าเดียวกัน โดย ANI นับเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ GSA ระดับภูมิภาครายแรกและรายเดียว ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)”

ปัจจุบัน ภาพรวมอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และฮ่องกง มีแนวโน้มการเติบโตในระดับสูง โดยมีอัตราการเติบโตของปริมาณการขนส่ง 7.8% ต่อปีระหว่างปี 2565 – 2570  จากแนวโน้มการเติบโตของความต้องการขนส่งสินค้า E-commerce ระหว่างประเทศ และความต้องการของสินค้ามูลค่าสูงที่เพิ่มมากขึ้น และ ธุรกิจ GSA มีแนวโน้มการเติบโตที่สูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศ ในอัตราการเติบโตของปริมาณการขนส่ง 10.3% ในช่วงปี 2565-2570 เนื่องจากสายการบินมีแนวโน้มในการพึ่งพาผู้ให้บริการ GSA มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการในการลดต้นทุนในการดำเนินงาน (อ้างอิงจากข้อมูลอุตสาหกรรมในประเทศไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา จาก Frost & Sullivan)

“ธุรกิจ GSA มีบทบาทเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศ และมีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสายการบิน มีแนวโน้มในการพึ่งพาผู้ให้บริการ GSA มากขึ้น เพื่อให้สามารถขายระวางสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยอาศัยผู้ให้บริการ GSA ที่มีความรู้ ประสบการณ์ และเครือข่ายกับลูกค้าในแต่ละประเทศ  ด้วยต้นทุนที่ต่ำและรวดเร็วกว่าการจัดตั้งสำนักงานและดำเนินการด้วยตนเอง  ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19  สายการบินหลายแห่งให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนและหันมาใช้บริการ GSA มากขึ้น” คุณบี เล็ง โก๊ะ กล่าว

ANI มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง  ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ANI ยังสามารถสร้างการเติบโตผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านความสามารถในการเข้าทำสัญญาให้บริการ GSA ขนาดใหญ่เพิ่มเติมในหลากหลายประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้มากขึ้น รวมทั้งกลยุทธ์ในการรักษาความสามารถในการทำกำไรจากการกำหนดราคาขายที่เหมาะสมและควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ