COCOCO เคาะ IPO 5.50 บ. เปิดจอง 4-6 ก.ย. เข้าเทรด SET ภายใน ก.ย. 66

HoonSmart.com>> บริษัท ไทย โคโคนัท  กำหนดราคาไอพีโอ 5.50 บาท เปิดจองซื้อ 4-6 ก.ย. 66 ลั่นระฆังเทรดกระดาน SET กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ภายในเดือน ก.ย. นี้ ด้าน Joint Lead Underwriters   มั่นใจนักลงทุนตอบรับดีเยี่ยม ชูฐานะการเงินแข็งแกร่ง ไตรมาส 2/66 โกยรายได้โต 31.59% แตะ 1,116 ลบ. ส่วนกำไรโต 103.39% แตะ 130.99 ลบ.ด้าน “ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว” พร้อมเดินหน้าขยายอาณาจักรตามแผนการระดมทุน (IPO) หวังสร้างการเติบโตยั่งยืน

ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โคโคนัท (COCOCO)  กล่าวว่า COCOCO จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโต และก้าวไปข้างหน้าบนเวทีโลก โดยจะสร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับประเทศไทยผ่านผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าว ภายใต้แบรนด์ Thaicoco ด้วยความมุ่งมั่น พร้อมความรับผิดชอบต่อสังคมสิ่งแวดล้อม และมีธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค และผู้ถือหุ้น COCOCO นับจากนี้ไป

“การนำ COCOCO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET ครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินธุรกิจของ COCOCO ที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดความสำเร็จสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ จึงเชื่อมั่นว่านักลงทุนจะให้ความสนในจองซื้อหุ้น IPO อย่างคึกคัก” ดร.วรวัฒน์ กล่าว

สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้ขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว COCOCO โดยซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อผลิตน้ำมะพร้าว เพื่อขยายกำลังการผลิตน้ำมะพร้าวจากประมาณ 110,000 ตัน/ปี เป็น 218,000 ตัน/ปี รวมถึงขยายคลังสินค้าเพื่อรองรับการจัดเก็บผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว นอกจากนี้ ยังซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในผลิตภัณฑ์ขนมกินเล่นของสุนัขและแมว รวมถึงซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในไอศกรีม

นางสาวพัฒรา ทัศจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและสารสนเทศ บริษัท ไทย โคโคนัท (COCOCO) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วง 3 ปีย้อนหลังปี 2563-2565 พบว่าบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 3,022 ล้านบาท 3,454 ล้านบาท และ 3,364 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 69.46 ล้านบาท 241.88 ล้านบาท และ 302.22 ล้านบาท ตามลำดับ และมีอัตรากำไรสุทธิ 2.29%, 6.95% และ 8.94% ตามลำดับ ซึ่งผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2566 มีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 1,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.59% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 848 ล้านบาท และ ในงวดไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 130.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.39% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายน้ำมะพร้าวไปยังประเทศจีนสูงขึ้น และสินค้าน้ำมะพร้าวเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าสินค้าประเภทกะทิ ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเติบโตที่โดดเด่น

นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิน พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะ
ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวปิดท้ายว่า ไทย โคโคนัท มีกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และจุดโดดเด่นของ COCOCO คือ ศักยภาพของการเติบโตในอนาคต โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ที่รายได้ของบริษัทฯ เติบโต จาก demand ตลาดจีนเพิ่มขึ้น สำหรับน้ำมะพร้าวและกำไรโดดเด่น โดยเป็นสิ่งที่จะสะท้อนถึงโอกาสการเติบโตในอนาคต

นายชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) (UOBKH)  ในฐานะเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม หรือ Joint Lead Underwriters กล่าวว่า บริษัทฯ ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ของ COCOCO จำนวน 370 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5.50 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E ratio) เท่ากับ 22 เท่า กำหนดเปิดให้จองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 4-6 กันยายน 2566 และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในเดือนกันยายน 2566 ในหมวดธุรกิจ (Sector) อาหารและเครื่องดื่ม และใช้ชื่อย่อในการ ซื้อขาย คือ “COCOCO”

“COCOCO ได้ยื่นเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 370 ล้านหุ้น มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.17% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดย COCOCO มีความโดดเด่น ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าว เป็นธุรกิจที่อยู่ในเมกะเทรนด์สุขภาพ ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดโลก มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาตค” นายชัยพัชร์ กล่าว

นางสาวออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า COCOCO มีผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม หรือ Joint Lead Underwriters จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)  (UOBKH)  และ บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD)

พร้อมกันนี้ ได้แต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 5 ราย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า, บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง, บริษัทหลักทรัพย์ พาย และบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

COCOCO เป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่น่าสนใจ โดยกำหนดราคาไอพีโอที่ 5.50 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานบริษัทฯ ที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในด้านรายได้และความสามารถในการทำกำไร จึงมั่นใจว่า COCOCO จะเป็นหลักทรัพย์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน