HoonSmart.com>> บอร์ด “ผลิตไฟฟ้า” (EGCO) เคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งวดครึ่งปี 66 อัตราหุ้นละ 3.25 บาท เตรียมขึ้น XD 14 ก.ย.นี้ จ่ายเงิน 28 ก.ย.66 สะท้อนพื้นฐานธุรกิจมั่นคง กระแสเงินสดแข็งแกร่ง ตอกย้ำนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ผลงานครึ่งปีหลังรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ
บริษัท ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 3.25 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 15 ก.ย. 2566 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 14 ก.ย. 2566 และจ่ายเงินในวันที่ 28 ก.ย. 2566
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ(บอร์ด)ให้ความสำคัญกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเงินปันผลระหว่างกาลปีนี้ในอัตราหุ้นละ 3.25 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,711 ล้านบาท อัตราเทียบเท่ากับเงินปันผลระหว่างกาลในปีที่ผ่านมา โดยผลงานครึ่งปีนี้มีรายได้รวม 30,718 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และมีกำไรสุทธิจำนวน 3,482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% โดยภาพรวมครึ่งปีแรก ยังคงสามารถบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าและต้นทุนเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าทุกแห่งอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น รวมทั้งความสามารถในการบริหารจัดการโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน เพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้
สำหรับการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทคาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ ๆ ที่จะมีการลงทุนเพิ่มเติม และโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว รวมถึงการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าไรเซ็ก ในสหรัฐอเมริกา และโครงการโรงไฟฟ้าหยุนหลิน ในไต้หวัน ที่สามารถทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเมื่อติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าจากใบพัดกังหันแล้วเสร็จ รวมทั้งโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (TPN) ที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาสที่ 3/ 2566 เป็นต้นไป
“เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงยึดมั่นในนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ในฐานะหุ้นปันผล (Dividend Stock) ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง บนรากฐานการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่แข็งแกร่งมากว่า 31 ปี บริษัทมุ่งมั่นต่อยอดสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่สอดคล้องกับ การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน โดยตั้งเป้าหมายบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 (2593) เพื่อร่วมขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน” นายเทพรัตน์ กล่าว
ด้านหุ้น EGCO ปิดตลาด 31 ส.ค.2566 ที่ราคา 133.50 บาท ลดลง 3 บาท หรือ -2.20% มูลค่าการซื้อขาย 346.12 ล้านบาท