Finnomena คัด 9 กองทุนเด่นเดือนต.ค. รับศก.สหรัฐฯชะลอตัวสะสมหุ้น Growth

HoonSmart.com>> Finnomena Funds มองตลาดหุ้นผ่านพ้นช่วง Bottom Out ตลาดเชื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ Soft Landing เป็นโอกาสลงทุนหุ้น Growth คัด 9 กองทุนเด่นประจำเดือนต.ต. สำหรับเข้าลงทุนและทยอยเก็บสะสม

Finnomena Funds อัปเดตมุมมองการลงทุนเดือนต.ค.2567 (ข้อมูล ณ 1 ต.ค.2567) โดยเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มกลับมามีแนวโน้มที่สดใสยิ่งขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจกำลังวกกลับมาเป็น Positive Surprise หนุนความคาดหวังตลาดมอง Soft Landing และเป็นโอกาสของการลงทุนในหุ้นเติบโต (Growth) โดยกองทุนแนะนำ ประจำเดือนต.ค.สำหรับเข้าลงทุนและทยอยเก็บสะสม

มุมมองการลงทุน FundTalk Call โดย “เจษฎา สุขทิศ” CEO Finnomena

“The Contrarian คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ The Contrarian Investor เน้นกลยุทธ์การลงทุนที่หาสินทรัพย์ที่ถูกทิ้ง จนราคาปรับตัวลงลึกมากจนเกินไป แต่ศักยภาพการเติบโตยังดี ประกอบกับมีลมหนุนที่ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการกลับตัวขึ้นได้ ทำให้มีโอกาสได้เข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ดี ราคาถูก ตอนที่คนไม่เหลียวแล”

กองทุนแนะนำ ได้แก่

1.) MEGA10AI-A : กองทุนที่ลงทุนใน 10 หุ้น Big Tech AI ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่นตามดัชนี Nasdaq ที่ทะลุ All-Time High แต่ยังมีอัพไซด์ให้ไปต่อ เพราะได้รับประโยชน์จากการปรับลดดอกเบี้ยแบบ Expansion Cut ประกอบกับแนวโน้มกำไรอันแข็งแกร่ง

2.) B-INNOTECH : กองทุนหุ้นเทคโนโลยีคุณภาพดี เน้นคัดกลุ่ม High Quality Growth ที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง และราคาไม่แพง โดยยึดหลักการลงทุนสไตล์ Contrarian และการที่ตลาดเชื่อว่าเศรษฐกิจไม่ถดถอย จะช่วยหนุน Sector Technology ให้กลับมา Outperform อีกครั้ง

3.) DAOL-KOREAEQ : กองทุนหุ้นเกาหลีใต้แบบ Active Fund ซึ่งปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง ในขณะที่ Valuation ถูกกว่าค่าเฉลี่ยของตัวเองในอดีต มีโอกาสวิ่งเป็นขาขึ้นตามหุ้นเทคโนโลยี Nasdaq พร้อมทั้งจะมีแรงกระตุ้มจากการเปิดตัว Value-Up Program สนับสนุนตลาดหุ้นเกาหลีใต้

ขณะที่มุมมองการลงทุน Mr.Messenger Call โดย “ชยนนท์ รักกาญจนันท์” Head Coach & Co-Founder FINNOMENA

“คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ Trend Follower Investor มุ่งสร้างโอกาสทำกำไรในระยะสั้น-กลาง เน้นใช้ปัจจัยทางเทคนิคจับจังหวะตลาด ศึกษาพฤติกรรมของราคาสินทรัพย์ในอดีต โดยใช้หลักสถิติเพื่อนำมาคาดการณ์พฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในอนาคต และช่วยให้หาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม”

กองทุนแนะนำ ได้แก่

1.) ES-USBLUECHIP : กองทุนหุ้นขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา โดยเน้นคัดเลือกบริษัทที่เติบโตทั้งรายได้ กำไร และกระแสเงินสด ตลอดจนมีความสามารถทางการแข่งขันสูง เพื่อรับโอกาสลงทุนตามเทรนด์ขาขึ้นของดัชนี Nasdaq 100

2.) SCBSEMI(A) : กองทุนหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ เป็นธีม Growth Stock ที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ลดลงแรง และมีมุมมองไปสู่ Soft Landing โดยหุ้นกลุ่มนี้มีโอกาสจะรีบาวด์ได้แรงกว่ากลุ่มอื่น ๆ

3.) ASP-DIGIBLOC : กองทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีบล็อกเชนและบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นช่วงที่ราคาปรับฐานลงมาแรง แต่สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าจุดต่ำสุดของดัชนีได้ผ่านพ้นไปแล้ว รวมทั้งกำลังเข้าสู่ช่วงที่ดีของสินทรัพย์เสี่ยงจากปัจจัยทางฤดูกาล

ขณะที่มุมมองการลงทุน MEVT Call โดย “วศิน ปริธัญ” Head of Investment

“คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ The Long-Term Growth เพื่อสร้างโอกาสทำผลตอบแทนได้ดีในระยะกลาง-ยาว โดยพิจารณาปัจจัยรอบด้านตาม MEVT Framework ได้แก่ Macro ปัจจัยเชิงมหภาค, Earnings วิเคราะห์การเติบโตของกำไร, Valuation การวิเคราะห์มูลค่าของสินทรัพย์ที่ลงทุน และ Technical ปัจจัยอื่น ๆ เช่น Fund Flow, Sentiment, Seasonal Statistic และ Technical Analysis”

กองทุนแนะนำ ได้แก่

1.) PRINCIPAL VNEQ-A : กองทุนหุ้นเวียดนาม Valuation ยังอยู่ในระดับน่าสนใจ มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงและโดดเด่นกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค อีกทั้งยังมี Catalyst จากการเตรียมเข้าสู่ EM Market ของดัชนี FTSE ในปีหน้า

2.) B-INNOTECH : กองทุนหุ้นเทคโนโลยีคุณภาพดี ซึ่งแนวโน้มกลับมาน่าสนใจตามการ Cut Rate และเทรนด์การเกิด Soft Landing อีกทั้งยังเป็นกองทุนที่เก่งในการเข้าซื้อหุ้นเติบโตได้ในราคาไม่แพง

3.) UOBSA : กองทุนหุ้นเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) เหมาะกับการลงทุนกระจายความเสี่ยงในภูมิภาคเอเชีย ด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่มีความยืดหยุ่น ปรับพอร์ตตามสถานการณ์ตลาด และการปรับตัวลงของกองทุนเป็นผลมาจากเงินบาทที่แข็งค่ารุนแรง อย่างไรก็ดี เชื่อว่าในระยะยาวจะเป็นกองทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นกว่ากองทุนเอเชียอื่น ๆ