HoonSmart.com>>ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ยอมรับเข้าแทรกแซงค่าเงินในช่วงแข็งแรงและเร็วหนุนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น วันนี้เงินบาทยังคงเดินหน้าแข็งที่สุดในรอบ 31 เดือนนำภูมิภาค บริเวณ 32.17 กดดันราคาทองร่วง 450 บาท ส่วนตลาดหุ้น -0.09% ต่างชาติขายเล็กน้อย 962 ล้านบาท ไม่สนใจเงินกองทุนวายุภักษ์หนึ่งร่วม 150,000 ล้านบาท พร้อมลงทุนซื้อหุ้นต.ค.นี้ ตลาดหุ้นจีนทะยานขึ้นแรง ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันที่ 30 ก.ย. 2567 ค่าเงินบาทยังคงแข็งต่อนำค่าเงินในภูมิภาค ตอนเย็นซื้อขายที่ 32.17 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ กดดันให้ราคาทองในประเทศ ลดลงบาทละ 450 บาทจากเปิดตลาดลดลง 200 บาท ระหว่างวันมีทั้งปรับขึ้นลงรวม 8 ครั้ง ทองคำแท่ง รับซื้อ 40,300 บาท ขายออก 40,400 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 39,567.60 บาท ขายออก 40,900 บาท ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.18 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ด้านน.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับว่าในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าเร็วและแรง ธปท.ได้เข้าไปดูแล เพื่อลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ทำให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เงินบาทแข็งค่ามากมาจากดอลลาร์สหรัฐฯอ่อน หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัวลง และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% มากกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงเงินเยนอ่อน มีโอกาสที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นดอกเบี้ย ล่าสุดเงินหยวนยังแข็งค่าจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของจีน ส่งผลบวกต่อ sentiment ในตลาดการเงิน และปัจจัยในประเทศก็ดีขึ้น รัฐบาลที่มีเสถียรภาพมากขึ้น การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นและราคาทองคำที่เพิ่มขึ้น
สำหรับผลกระทบต่อผู้ส่งออก ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ ถ้ามีการนำเข้าสินค้าด้วยก็มีราคาต่ำลง ได้รับผลกระทบน้อยกว่ากลุ่มส่งออกสินค้าเกษตร แต่การส่งออกยังขึ้นอยู่กับความต้องการสินค้าจากประเทศผู้ซื้อมากกว่า ส่วนผลกระทบท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล อาจไม่มีการเปลี่ยนแผนมาก เพราะจองล่วงหน้าไว้แล้ว เพียงแต่อาจมีการปรับลดการใช้จ่ายบ้าง ส่วนนักท่องเที่ยวจีน และมาเลเซียกลับมีค่าเงินที่แข็งกว่าไทยจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
ด้านตลาดหุ้นไทยอ่อนแรงต่อ ปิดที่ 1,448.83 จุด ลดลง 1.32 จุด หรือ -0.09% มูลค่าซื้อขาย 52,870.12 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศขาย 962.51 ล้านบาท สวนทางนักลงทุนในประเทศซื้อทั้ง 3 กลุ่ม
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า หุ้นวันนี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ในกรอบแคบ ในช่วงรอปัจจัยชี้นำใหม่ และคาดหวังเม็ดเงินลงทุนจากกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งจะทำให้ตลาดสามารถยืนได้ในครึ่งแรกของเดือนต.ค.นี้
ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียติดลบเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงมาก หลังได้นายกฯคนใหม่ ซึ่งสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย สร้างความกังวลนโยบายการงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่เข้มงวดขึ้นในอนาคต แต่ตลาดหุ้นจีนวันนี้พุ่งแรง 8% ก่อนหยุดยาวช่วงวันชาติจีน ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ปรับตัวลง จากแรงขายทำกำไรหลังขึ้นไปมากแล้ว