HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดลบ 174 จุด แรงขายกลุ่มธนาคารและกลุ่มค้าปลีก นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมประจำปี 25 ส.ค.นี้ ด้าน S&P ลดเรทติ้งแบงก์ภูมิภาค 5 แห่งในสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 37 เซนต์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 22สิงหาคม 2566 ที่ 34,288.83 จุด ลดลง 174.86 จุด หรือ 0.51% จากการร่วงลงของกลุ่มธนาคารและกลุ่มค้าปลีก ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 25 สิงหาคม
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,387.55 จุด ลดลง 12.22 จุด, -0.28%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,505.87 จุด เพิ่มขึ้น 8.28 จุด, +0.06%
ในกลุ่มธนาคารทั้งแบงก์ขนาดใหญ่และธนาคารภูมิภาคปรับตัวลงหลัง S&P Global Ratingsปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารระดับภูมิภาค 5 แห่งในสหรัฐที่ปล่อยสินเชื่ออสังหาสูง ได้แก่ KeyCorp, Comerica Bank, Valley National Bancorp, UMB Financial Corp. และ Associated Banc-Corp รวมทั้งยังได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตธนาคาร S&T Bankและ River City Bank จากแนวโน้มมีเสถียรภาพ(stable)เป็นแนวโน้มเป็นลบ(negative) โดยระบุว่ามีความกังวลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการให้กู้ยืมที่ยากขึ้น
หุ้น KeyCorp และหุ้น Comerica ต่างลดลง 4.1% หุ้นเจพีมอร์แกน เชสลดลง 2.1%
นักลงทุนยังคงกังวลว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นอีกนาน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปียังคงเคลื่อนไหวในระดับสูง ในขณะที่จับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายพาวเวลล์ ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์เพื่อประเมินความชัดเจนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
ปีเตอร์ ทัส จากChase Investment Counsel กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นมีผลต่อตลาดหุ้น
อดัม เทิร์นควิส LPL Financial กล่าวว่า ตลาดค่อนข้างจะผันผวนในขณะนี้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีอยู่ที่ประมาณระดับสูงสุดในเดือนตุลาคม หากเริ่มขยับสูงขึ้น ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการร่วงลงลึกไปอีกเล็กน้อยของตลาดทุน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 16 ปี โดยมองว่าเฟดสามารถคงอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นได้นานขึ้น ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นอาจทำให้การใช้จ่ายของธุรกิจและผู้บริโภคช้าลง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีวานนี้้อ่อนตัวลงเล็กน้อยมาที่ 4.33%
ในกลุ่มค้าปลีก หุ้น Macy’s ลดลง 14.1% จากรายได้ไตรมาส 2 ที่ต่ำกว่าคาดและคาดการณ์ทั้งปีไม่สดใส หุ้น Dick’s Sporting Goods ลดลง 24% หุ้น Nordstrom ลดลง 9.8%
หุ้นNvidia ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ลดลง 2.9% ก่อนแจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 ในวันนี้
นักลงทุนยังรอการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนสิงหาคม ยอดขายบ้านใหม่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากการปรับขึ้นของหุ้นผู้ผลิตชิปในกลุ่มเทคโนโลยี ตามตลาดหุ้นสหนัฐก่อนการรายงานผลการดำเนินงานของ Nvidia และจากการปรับขึ้นของหุ้น Ubisoft ผู้ผลิตวิดีโอเกมหลัง Activision ขายสิทธิการสตรีมมิ่งให้กับบริษัท
หุ้นUbisoft บวก 8.5%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 1.9% ตามราคาโลหะที่ปรับตัวขึ้น
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางที่ เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 25 ส.ค.เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย จากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)และนางคริสติน ลาการ์ด ธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 451.70 จุด เพิ่มขึ้น 3.04 จุด, +0.68%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,270.76 จุด เพิ่มขึ้น 12.94 จุด, +0.18%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,240.88 จุด เพิ่มขึ้น 42.82 จุด, +0.59%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,705.62 จุด เพิ่มขึ้น 102.34 จุด, +0.66%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 80.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 84.03 ดอลลาร์/บาร์เรล