CGS-CIMBมองนายกฯหนุนเป้า 1,720 จุด ชู 4 กลุ่มเด่น 14 หุ้นปัง

HoonSmart.com>>CGS-CIMB คงเป้าดัชนีหุ้นสิ้นปีนี้ 1,720 จุด มองหุ้นสดใสขึ้น  หลังมีนายกฯคนใหม่จากพรรคเพื่อไทย  ออกหลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เชียร์เพิ่มน้ำหนักกลุ่มธนาคาร, โรงแรม, ค้าปลีก, อสังหาริมทรัพย์และรับเหมาก่อสร้าง  ชู 14 หุ้นเด่น   AP, BBL, BH, CK, CPALL, CRC, ERW, ICHI, MINT, PR9, ORI, SCB, STEC,WHA  แนะลดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี,โทรคมนาคม,พลังงาน,ปิโตรเคมีและกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค

นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย  บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) หรือ CGS-CIMB  มองแนวโน้มการเมืองไทย ว่า การที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน อดีต CEO ของบริษัทแสนสิริ (SIRI) เป็นนายกรฐัมนตรี ซึ่งหากนายเศรษฐาได้คะแนนเสียงไม่พอในการโหวตรอบที่ 3 นี้ ก็เชื่อว่าการโหวตรอบที่ 4 จะมีการเสนอชื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นมาแทน แม้ในขณะนี้จะยังไม่มีความแน่นอนทางการเมือง แต่ในท้ายที่สุดแล้ว พรรคเพื่อไทยน่าจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่อยู่ดี จึงมองว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อ sentiment ของตลาดหุ้นไทย

“แม้ว่าการโหวตเลือกนายกรฐัมนตรีอาจล่าช้า แต่เราคาดว่ารัฐบาลใหม่จะนำโดยพรรคเพื่อไทย น่าจะเริ่มเข้ามาทำงานได้ภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ เรามองว่าจะช่วยลดความกังวลของตลาด และมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกจิของรฐับาลใหม่ น่าจะส่งผลดีต่อ sentiment ของตลาดหุ้นบ้านเรา” หัวหน้าฝ่ายวิจัย CGS-CIMB กล่าว

นับตั้งแต้ต้นปีจนถึงขณะนี้ ตลาดหุ้นไทยกลายเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนที่แย่สุด(worst performer) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งในรูปของสกุลเงินบาทและดอลลารส์สหรัฐฯ ตามข้อมูลของ Bloomberg(Figure28) ดังนั้น ฝ่ายวิจัย CGS-CIMB คาดว่ารัฐบาลชุดใหม่ภายใต้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ จะออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ และส่งผลดีต่อภาคธุรกิจในประเทศ

ส่วนกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ คือ กลุ่มธนาคาร กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มค้าปลีก กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าราคาหุ้นในกลุ่มเหล่านี้จะตอบสนองในเชิงบวก จึงแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน (Overweight)   ส่วนหุ้น Top pick เลือก AP, BBL, BH, CK, CPALL, CRC, ERW, ICHI, MINT, PR9, ORI, SCB, STEC และ WHA

ขณะที่แนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุน (Underweight) หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มโทรคมนาคม, กลุ่มพลังงาน, กลุ่มปิโตรเคมีและกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค

นายเกษม กล่าวว่า ฝ่ายวิจัย CGS-CIMB ยังคงเป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์( SET Index ) สิ้นปี 2566 อยู่ 1,720 จุด แม้ว่าสถานการณ์การเมืองอาจยังมีความไม่แน่นอน แต่เชื่อว่าทิศทางการเมืองไทยน่าจะเป็นไปตามที่คาดไว้ คือ พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็น sentiment บวกต่อตลาดหุ้น ทั้งนี้เป้าหมาย SET Index ที่ 1,720 จุด เท่ากับค่า P/E 17 เท่าในปี 2567 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี (2556-2566)

“เรามองว่า downside risk จะมาจากความวุ่นวายทางการเมือง ส่วน upside risk น่าจะมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ และการที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มสดใสขึ้น” หัวหน้าฝ่ายวิจัย CGS-CIMB กล่าว