CGSI คาดดัชนีเคลื่อนไหว 1,440-1,460 จุด สะสมกลุ่ม Domestic play

HoonSmart.com>> CGSI คาดแนวโน้มหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,440 – 1,460 จุด จังหวะเข้าสะสมหุ้นกลุ่ม Domestic play ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ตลาดจับตาประธานเฟดประชุมตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ 26 ก.ย.นี้ หุ้นแนะนำ BCH, CRC

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดแนวโน้ม SET Index วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,440 – 1,460 จุด โดยมองว่าจะไม่หลุด 1,440 และ เป็นจังหวะเข้าสะสมหุ้นกลุ่ม Domestic play

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกโดยดัชนี DJIA +0.15% S&P500 +0.28% และ Nasdaq +0.14% นำโดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน (+1.31%) และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (+1.30%) โดยตลาดยังได้รับแรงสนับสนุนจากการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50bps สู่ระดับ 4.75–5.00% ของ Fed ในการประชุมเมื่อวันที่ 18 ก.ย. และมีแนวโน้มปรับลดเพิ่มอีกภายในสิ้นปีนี้

ตลาดยังคงจับตาการแสดงความคิดเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ในที่ประชุมว่าด้วยตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ วันพฤหัสบดีที่ 26 ก.ย. นี้

นอกจากนี้ ติดตามรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากเดือนก.ย. วันนี้ ที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 103.5 (vs. ส.ค. ที่ระดับ 103.3)

สำหรับปัจจัยเกี่ยวกับเศรษฐกิจในประเทศ ยอดจองซื้อกองทุนรวมวายุภักษ์จากนักลงทุนในสัปดาห์ที่ผ่านมา (16-20 ก.ย.) เกินกว่า 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากรอบวงเงินที่กระทรวงการคลังวางไว้ที่ 1.5 แสนล้านบาท โดยผู้จัดการกองทุนฯ คาดว่าจะสามารถนำเม็ดเงิน เข้าลงทุนหุ้นไทยได้ในวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเรามองว่าจะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นไทยที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและให้ผลตอบแทนสูง

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) ธปท. ได้เปิดเผยรายชื่อผู้ยื่นขอใบอนุญาต Virtual bank จำนวน 5 ราย ได้แก่ 1) KTB ร่วมกับกลุ่มพันธมิตร ADVANC และ OR , 2) BTS ร่วมกับ BBL บริษัท Sea Group จากสิงคโปร์ เครือสหพัฒน์ฯ และบริษัท ไปรษณีย์ไทย , 3) SCB ร่วมกับ KakaoBank จากเกาหลีใต้ และ WeBank จากจีน , 4) CP โดยบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด (ผู้ให้บริการ TrueMoney) ร่วมกับ Ant Financial Services Group ในเครือ Alibaba และ 5) Lightnet Group ฟินเทคไทย ร่วมกับ WeLab จากฮ่องกง

โดยจะประกาศรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังในช่วงมิ.ย.2568 และ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจได้ภายในมิ.ย.2569 ซึ่งตลาดคาดว่าบริการ Virtual bank จะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่ม Infra Tech

ด้านเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงาน VCM ของ Thai Plastic Chemical (TPC) ที่ SCC ถือหุ้นอยู่ 99% แม้ว่าจะสามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
แต่ SCC อาจได้รับแรงกดดัน เนื่องจาก บริษัทในเครือ SCC อย่าง ROC, MOC และ LSP ยังมีผลขาดทุนในการดำเนินงาน (EBITDA)

สัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขการค้าไทยเดือนส.ค. ซึ่งตลาดคาดว่ายอดส่งออกไทยจะขยายตัว 6.0% yoy (vs. เดือนก.ค. +15.2%) และ ยอดนำเข้าจะขยายตัว 6.5% yoy (vs. เดือนก.ค. +13.1%)

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BCH เชื่อว่าราคาของ BCH สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่สปส. อาจปรับลดค่าบริการทางการแพทย์ของผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงและการที่จำนวนผู้ป่วยจากคูเวตฟื้นตัวช้าแล้ว จึงมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงเป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อ โดยเราเชื่อว่า BCH จะมี EPS เติบโตสูงกว่าคู่แข่งในปี FY24-26 (Take profit : 17.50 / Stop loss : 16.10)

หุ้น CRC เชื่อว่าการฟื้นตัวของยอดขายสินค้าแฟชั่น, การปรับลดอัตราดอกเบี้ยและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในเวียดนามน่าจะช่วยหนุนการเติบโตของ CRC ในปี FY25 (Take profit : 35.00 / Stop loss : 32.50)