SEI ลุยไฟวันนี้ บล.หยวนต้าตีมูลค่า 5.5 บาท คาดกำไรปีนี้โต 70%

HoonSmart.com>>”เอสอีไอ เมดิคัล” พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันนี้ (24 ก.ย.67) กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค บล.หยวนต้าคาดกำไร 2 ปีข้างหน้าโต 70%,50% ให้ราคาพื้นฐาน 5.50 บาท จากราคาจอง 3.10 บาท  เงินจากการระดมทุน  IPO 655 บาท นำไปขยายธุรกิจอุปกรณ์การแพทย์ เพิ่มสินค้าใหม่มาร์จิ้นสูง ร่วมลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

นายถกล บรรจงรักษ์ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บล.หยวนต้า ในฐานะผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของบริษัท เอสอีไอ เมดิคัล (SEI) ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น คาดว่า  SEI จะมีกำไรปี 2567 อยู่ที่ 37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% จากปีที่ผ่านมา และปี 2568 จะมีกำไร 56 ล้านบาท เพิ่ม 50% จากปี 2567  แนวโน้มธุรกิจน่าสนใจจากการที่อยู่ในอุตสาหกรรมเมดิเคิลที่เติบโตสูง  คาดปี 2567-2568 ภาพรวมธุรกิจจะโตเฉลี่ยปีละ 8% จากนโยบายการส่งเสริมของรัฐบาล

แนวโน้ม 2 ปีจากนี้ SEI จะเติบโตจากธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ เพิ่มรายได้ใหม่จากการให้เช่าเและสินค้าใหม่ในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ที่ใช้แล้วทิ้ง ที่มีมาร์จิ้นสูง จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น

“เราให้ราคาพื้นฐานที่ 5.50 บาท จาก P/E 12 เดือนย้อนหลังถึง 6 เดือนแรกของปีนี้ที่ 20 เท่า เมื่อเทียบกับราคา IPO 3.10 บาท ถือว่ามีอัพไซด์”นายถกล กล่าว

ด้านนายวรวัสส์ วัสสานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ SEI กล่าวว่า หุ้น SEI จะเข้าซื้อขายในตลาด mai กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค ในวันที่ 24 ก.ย.2567 นี้ โดยเงินที่ได้จากการระดมทุน 115 ล้านบาท จะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจหลัก และร่วมลงทุนในธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก

นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SEI กล่าวว่า หากเทียบมาร์จิ้นของบริษัทฯกับบริษัทที่ทำธุรกิจเดียวกันในตลาดอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน โดย 3 ปีที่ผ่านมา(2564 -2566) กำไรขั้นต้นโตเฉลี่ยปีละ 30% โดยครึ่งแรกปี 2567 โต 32.99% กำไรสุทธิ 9.92% โดยกำไรไตรมาส 2 ของปีนี้ดีขึ้นกว่าไตรมาสแรกจากการที่มีการขายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์มากขึ้น

สำหรับวัตถุประสงค์ของการใช้เงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปใช้กับ
1.การขยายธุรกิจจำหน่ายสินค้าเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ ที่จะเพิ่มรายได้ใหม่จากการให้เช่าซึ่งกำลังเพิ่มขึ้น จากเดิมที่โรงพยาบาลเน้นซื้ออย่างเดียว โดยจะขยายตลาดไปยังโรงพยาบาลที่มีขนาดสินค้าเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ 100 เตียงขึ้นไป และเข้าไปในแผนกต่างๆของโรงพยาบาลที่มีมาก ส่วนค่าเงินบาทแข็ง จะเป็นปัจจัยบวกต่อการนำเข้าวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์จากต่างประเทศ

2.ใช้ในการขยายธุรกิจวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ มาร์จิ้นสูง ที่ปัจจุบันคนไทยยอมรับวัสดุที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งมากขึ้น และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

3.ร่วมลงทุนกับพันธมิตรในธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่อง เช่น คลีนิคเฉพาะทาง หรือ โรงพยาบาลเฉพาะทาง ที่บริษัทฯอยู่ในธุรกิจเมกะเทรนด์ และมีความชำนาญจากการทำธุรกิจมา 37 ปี การ IPO เป็นจุดเริ่มต้นในการขยายธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในการสร้างรายได้ แสวงหา New S- Curve ร่วมกับพันธมิตร