บล.กสิกรฯ ถอยมาตั้งรับ 1,485 จับตาตัวเลข GDP-ส่งออกก.ค.

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์หน้าให้แนวต้าน 1,560 จุด 4 ปัจจัยชี้นำ ส่วนค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบเคลื่อนไหวที่ระดับ 35-35.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือนครึ่งที่ 35.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (21-25 ส.ค.) ว่า ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,505 และ 1,485 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,540 และ 1,560 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/66 และตัวเลขส่งออกเดือนก.ค. ของไทย สถานการณ์การเมือง และทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนก.ค. ดัชนี PMI เดือนส.ค. (เบื้องต้น) รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนส.ค. ของจีน รวมถึงดัชนี PMI เดือนส.ค. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่นและยูโรโซน

ดัชนีหุ้นปรับตัวลงตามทิศทางหุ้นต่างประเทศ โดยในช่วงแรกปรับตัวลงเนื่องจากความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจจีนที่มีสัญญาณชะลอตัวลง และธนาคารหลายแห่งของสหรัฐฯ อาจถูกปรับลดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือโดยฟิทช์ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงระหว่างสัปดาห์ จากความคาดหวังว่าจะมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ดีหุ้นพลิกร่วงอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางแรงกดดันจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ และการยื่นล้มละลายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน

ในวันศุกร์ที่ 18 ส.ค. ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,519.12 จุด ลดลง 1.04% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 54,486.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.90% ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.24% มาปิดที่ระดับ 458.69 จุด

ส่วนค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (21-25 ส.ค.)ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 35.00-35.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ เงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือนครึ่งที่ 35.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาทเผชิญแรงขายอย่างต่อเนื่องตามภาพรวมของสกุลเงินในเอเชีย นำโดย เงินหยวนที่ถูกกดดันจากความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ค. ออกมาอ่อนแอ ประกอบกับมีสัญญาณผ่อนคลายทางการเงิน หลังจากที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับโครงการเงินกู้ระยะกลางอายุ 1 ปีลง

นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลกและสัญญาณขายสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติในระหว่างรอความชัดเจนของประเด็นทางการเมืองในประเทศ

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังขยับแข็งค่าขึ้นตามบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ โดยมีแรงหนุนจากบันทึกการประชุมเฟดที่สะท้อนสัญญาณกังวลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงอ่อนค่าลงในช่วงปลายสัปดาห์ หลังเงินหยวนฟื้นตัวขึ้นบางส่วนตามการส่งสัญญาณผ่านการกำหนดอัตราอ้างอิงเงินหยวนของธนาคารกลางจีน

ในวันศุกร์ที่ 18 ส.ค. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.36 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 35.09 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (11 ส.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 15-18 ส.ค. 2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 4,305 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 12,096 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 8,384 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 3,712 ล้านบาท)