ดาวโจนส์ปิดทรุด 290 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งกังวลดอกเบี้ยสูงนาน

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 290.91 จุด -0.84% , S&P500 -0.77%, Nasdaq -1.17% บอนด์ยีลด์พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 4.31% กังวลเฟดคงดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานาน ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 17สิงหาคม 2566 ที่ 34,474.83 จุด ลดลง 290.91 จุด หรือ 0.84% ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มสูงขึ้นไปที่ระดับสูงสุดใหม่ ขณะที่นักลงทุนประเมินผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนและข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดว่าจะทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,370.36 จุด ลดลง 33.97 จุด, -0.77%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,316.93 จุด ลดลง 157.70 จุด, -1.17%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.31% เมื่อคืนนี้ สูงสุดในนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2022 หลังจากธนาคารกลาง(เฟด)เผยแพร่รายงานการประชุมวันที่ 25-26 กรกฎาคมที่แสดงให้เห็นว่า เฟดมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงขาขึ้น (upside risk) ของเงินเฟ้อ ส่งผลให้นักลงทุนวิตกว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันไปอีกนาน

แบร์รี แบนนิสเตอร์ นักกลยุทธ์จาก Stifel กล่าวว่า การปรับลดลงของตลาดยังมาจากข้อมูลเศรษฐกิจซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงเป็นเวลานาน

กระทรวงแรงงานรายงาน การยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วลดลง 11,000 ราย มาที่ 239,000 ราย และต่ำกว่า 240,000 ราย ที่นักวิเคราะห์คาด ซึ่งบ่งชี้ว่า
ตลาดแรงงานยังตึงตัว

เทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน แม้ความน่าจะเป็นลดลงมาที่ 86.5% จาก 89% ในสัปดาห์ก่อน

ตลาดยังถูกฉุดจากหุ้น CVS Health ซึ่งมีน้ำหนักค่อนข้างมากในดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงกว่า 8% จากรายงานข่าวว่า Blue Shield of California ซึ่งเป็นองค์กรด้านสุขภาพที่ไม่แสวงผลกำไร มีแผนที่จะยกเลิกการเป็นพันธมิตรกับบริษัทในฐานะผู้จัดการผลประโยชน์ร้านขายยาและจะหันไปร่วมงานกับบริษัทอื่น ๆ เช่น บริษัทอะเมซอน

การร่วงลงของกลุ่มเฮลธ์แคร์กลบการปรับขึ้นของหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ และกลุ่มพลังงาน เป็นอีกหนึ่งแรงถ่วงให้ตลาดปรับตัวลง ราคาหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ เพิ่มขึ้น 3.3% จากผลประกอบการที่สูงเกินคาด

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น จากราคาน้ำมัน WTI สูงขึ้นจากความหวังว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวงกว้างและสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิลบวก 1.9% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.7%

หุ้นวอลมาร์ท แจ้งผลยอดขายและยอดการเข้าร้านรายไตรมาสดีกว่าคาด และปรับคาดการณ์ทั้งปีขึ้น แต่ราคาหุ้นลดลงกว่า 2%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น รวมไปถึงการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจากสัญญานว่าธนาคารกลางหลายประเทศหลักจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงเป็นเวลานาน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทั่วทั้งยุโรป หลังรายงานการประชุมวันที่ 25-26 กรกฎาคมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)แสดงให้เห็นว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันไปอีกนาน

เมื่อวานนี้ธนาคารกลางนอร์เวยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% เป็น 4.0%

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูลดลง 1.9% ไปที่ระดับต่ำสุดรอบ 5 เดือน โดยหุ้น LVMH และหุ้น Hermes International ซึ่งพึ่งพิงตลาดจีน ต่างลดลงกว่า 2% ด้วยความกังวลต่อแนวโน้มอุปสงค์ในจีน

แอนเดรียส บรุคเนอร์ นักกลยุทธ์หุ้นยโรปจาก Bank of America กล่าวว่า ประเด็นความยั่งยืนของหนี้ในจีนก็มีน้ำหนักเช่นกัน เนื่องจากยุโรปพึ่งพาวงจรการเติบโตของโลกมากกว่า เพราะเป็นเศรษฐกิจแบบเปิดและเน้จีนมากกว่าตลาดตราสารทุนที่อื่น ๆ

หุ้นGN Store Nord ผู้ผลิตเครื่องช่วยฟังในเดนมาร์กลดลง 9.4% หลังยอดขายไตรมาสสองต่ำกว่าคาดและปรับลดคาดการณ์ทั้งปีลง

Refinitiv คาดการณ์ว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ ของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปจะลดลง 4.6% จากปีก่อน

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 451.19 จุด ลดลง 4.10 จุด, -0.90%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,310.21 จุด ลดลง 46.67 จุด, -0.63%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,191.74 จุด ลดลง 68.51 จุด, -0.94%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,676.90 จุด ลดลง 112.55 จุด, -0.71%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 80.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 84.12 ดอลลาร์/บาร์เรล