HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” คาดแนวโน้มดัชนีเคลื่อนไหวประคองตัว แรงพยุงจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว ด้านสหรัฐฯ รายงานดัชนี PPI ตอกย้ำคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% สัปดาห์หน้า ขณะที่ประชุม ECB ลดดอกเบี้ย 0.25% วางแนวรับดัชนี 1,415 -1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,425-1,440 จุด พร้อมเสิร์ฟหุ้นวันนี้ MTC-TOA
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,415 -1,400 จุด แนวต้าน 1,425-1,440 จุด คาดดัชนีเคลื่อนไหวประคองตัว โดยแรงพยุงจากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว แนะนำทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัวกลุ่มอิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CPAXT, CBG, OSP, ICHI ได้ประโยชน์จากมารการกระตุ้นกำลังซื้อ กลุ่มธนาคารพาณิชย์มีแรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ KTB, TTB กลุ่มการเงิน MTC, SAWAD ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง กลุ่ม ร.พ.มีปัจจัยหนุนตามฤดูกาล BH, BDMS, PR9 กลุ่มนิคม WHA, AMATA, ROJNA ประโยชน์มาตรการส่งเสริมการลงทุน
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.66 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 68.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.36 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 71.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังมีความกังวลด้าน Supply ว่าการผลิตน้ำมันในอ่าวเมกซิโกจะได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฟรานซีน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA +0.58%, S&P500 +0.75%, Nasdaq +1.0% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสื่อสาร +2.0%, สินค้าฟุ่มเฟือย +1.15% หลังรายงานตัวเลข US PPI ส.ค. อยู่ที่ 1.7% และ ก.ค. 2.1% และ คาด 1.8% YoY เป็นเพิ่มขึ้นน้อยสุดนับตั้งแต่ ก.พ. 67 ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ 230,000 และ คาด 227,000 ราย บ่งชี้เงินเฟ้อทางฝั่งผู้ผลิตสหรัฐปรับลดลง ขณะที่อัตราการจ้างงานไม่ได้ชะลอตัวลงมากนัก เป็นปัจจัยหนุนให้เฟดลดดอกเบี้ย โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 63% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17 – 18 ก.ย. ค่ำวันนี้ ม.มิชิแกนจะรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เบื้องต้น ก.ย. คาด 71 และ ส.ค. 72.1
ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.8% ได้แรงหนุนจากทุกหมวดอุตสาหกรรม ยกเว้นสาธารณูปโภค -0.1% หลัง ECB ปรับลดดอกเบี้ย 0.25%
หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ MTC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 51.00 บาท) บริษัทวางเป้าปี 67 สินเชื่อเติบโต 15-20% Credit cost น้อยกว่า 3.5% ขณะที่ NPL ลดลงอย่างต่อเนื่องอยู่ต่ำกว่า 3% มองภาพรวมการขยายสินเชื่อและการติดตามหนี้จะทำได้ดีขึ้น ขณะที่แนวโน้มหนี้เสียผ่านจุดสูงสุดแล้วทำให้ระดับการตั้งสำรองลดลง และกำลังกลับเข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่ โดยวางกลยุทธ์เน้นเติบโตแบบยั่งยืนผ่านสินเชื่อที่มีหลักประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียน)
ทั้งนี้หากอิง Consensus ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67-68 ที่ 5.8 พันล้านบาท +19%YoY และ 6.8 พันล้านบาท +18%YoY
หุ้น TOA (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 25.20 บาท) กำไรสุทธิ 1H67 อยู่ที่ 1,281 ล้านบาท -6.72%YoY จากค่าใช้จ่ายพนง., การตลาด, และโฆษณาที่สูงขึ้น รวมถึง การตัดจำหน่ายสินทรัพย์จากการย้ายโรงงานในมาเลเซีย ส่วนการดำเนินงานช่วงถัดไป แม้ 3Q67 มีโอกาสอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวดีใน 4Q67 หนุนด้วยฤดูกาล และการซ่อมแซมหลังน่ำท่วม
นอกจากนี้ TOA ยังมีความน่าสนใจจากการเป็นหุ้นใน SET100, SETESG และได้ SET ESG Ratings ระดับ A ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิ TOA* ปี67 และ 68 จะอยู่ที่ 2,496 ล้านบาท (-5.34%YoY) และ 2,673 ล้านบาท (+7.09%YoY)