HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวต้านวันนี้ 1,420 – 1,425 จุด ส่วนแนวรับ 1,405 – 1,410 จุด หากยืนเหนือแนวรับ 1,410 จุด แนะถือพอร์ตต่อ ติดตามแถลงนโยบายรัฐบาล กระตุ้นหุ้นกลุ่มแบงก์,ไฟแนนซ์, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว, รพ., นิคมฯ, โรงไฟฟ้า, รับเหมาก่อสร้าง พร้อมแนะหุ้นวันนี้ SAK,PR9
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,405 – 1,410 จุด แนวต้าน 1,420 – 1,425 จุด ซึ่งหากดัชนีสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,410 จุด ได้แนะนำถือพอร์ต่อ โดยนักลงทุนรอการแถลงนโยบายของรัฐบาล ส่วนปัจจัยต่างประเทศรอผลการประชุม ECB & Fed แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่น กลุ่มอุปโภค CPALL,CPAXT,BJC,CBG,ICHI,OSP ได้ประโยชน์จากมาตรการแจกเงินสดและการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท หุ้น WHA,AMATA,ROJNA ได้ประโยชน์มาตรการส่งเสริมการลงทุน หุ้น GULF,GPSC,AAV,BA ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันลดลง และหุ้น CK,STEC,TASCO ปัจจัยหนุนจากงานประมูลภาครัฐ
ประเด็นสำคัญวันนี้ติดตามการแถลงนโยบายรัฐบาลวันที่ 12 – 13 ก.ย. ซึ่งจะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร, ไฟแนนซ์, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว, รพ., นิคมฯ, โรงไฟฟ้า, รับเหมาก่อสร้าง ได้ประโยชน์จากนโยบายของกระทรวงเศรษฐกิจ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.31%, S&P500 +1.07%, Nasdaq +2.17% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Nvidia +8% รับข่าวรัฐบาลสหรัฐอนุญาติให้บริษัทขายชิป Ai ให้กับซาอุดิอาระเบีย ส่วนรายงาน US CPI ส.ค. +0.2% MoM ตามคาดการณ์ แต่ US Core CPI ส.ค.ปรับขึ้นอยู่ที่ +0.3% และคาด +0.2% MoM สาเหตุมาจากค่าเช่าและบริการปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้โอกาส 85% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุม 17 – 18 ก.ย.
ค่ำวันนี้ติดตาม US PPI ส.ค. คาด 1.7% และก.ค. 2.2% YoY ส่วนผลการดีเบตระหว่างทรัมป์ & แฮร์ริส ทาง CNN Poll ชี้แฮร์ริสมีคะแนนนิยม 63% และ ทรัมป์ 37% ซึ่งหากแฮร์ริสชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี น่าจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐมากกว่าทรัมป์ เนื่องจากนโยบายการคลังของแฮร์ริสไม่ได้เร่งอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้นเร็วเกินไป
หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ SAK (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 6.05 บาท) บริษัทรายงานผลการดำเนินงาน 1H67 มีรายได้รวม 1.48 พันล้านบาท +13%YoY หนุนจากพอร์ตสินเชื่อที่เติบโตขึ้นเป็น 1.36 หมื่นล้านบาท +17%YoY จากความต้องการสินเชื่อทะเบียนรถเป็นหลักประกันและสินเชื่อเกษตรพุ่งแรงรับฤดูกาลเพาะปลูก ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 394 ล้านบาท +11%YoY
แผนการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังมุ่งเน้นการเติบโตที่มีคุณภาพด้วยการควบคุม NPL ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม และมองว่าพอร์ตสินเชื่อทั้งปีจะขยายตัวได้ราว +15%YoY อยู่ที่ 1.43 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 840 ล้านบาท +12%YoY และปี 68 ที่ 996 ล้านบาท +19% จากต้นทุนการเงินที่มีโอกาสลดต่ำลง (ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ธนาคารพาณิชย์)
หุ้น PR9 (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 22.76 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 139 ล้านบาท -13%QoQ, +15%YoY อ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ยัง +YoY ดีมีแรงหนุนจากจากการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติ Fly-in โดยเฉพาะอาหรับ ลาว พม่า ขณะที่ฝั่งผู้ป่วยไทยยังโดดเด่นในเรื่องโรคไต/โรคซับซ้อน ส่วนการดำเนินงานช่วงถัดไป ครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีต่อเนื่องเข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 มีสัญญาณดีจากผู้ป่วยกลุ่มชาติอาหรับมากขึ้นหลังทำการตลาดเชิงรุก
ทั้งนี้ ตลาดคาด กำไรสุทธิ ปี67 และ ปี68 จะขยายตัวต่อเนื่องมาอยู่ที่ 650 ล้านบาท (+16%YoY) และ 734 ล้านบาท (+13%YoY) ตามลำดับ