HoonSmart.com>> ส่อง 10 อันดับกองทุนหุ้นไทย Large-Cap 10 “ผลตอบแทน” สูงสุดตั้งแต่ต้นปี 67 พบ “กองทุน 1AMSET50-ID ขึ้นแท่นผลงานดีสุด 12.29% ชนะเบนซ์มาร์คเกือบเท่าตัว ขณะที่อันดับสองอยู่ที่ 9.57% เปิดพอร์ตถือหุ้นสูงสุด 5 อันดับแรก “ADVANC-AOT-DELTA-CPALL-PTT”
การปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วของดัชนีหุ้นไทยในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่ 16 ส.ค.-10 ก.ย.2567 รวมกว่า 138.19 จุด จากระดับดัชนี 1,289.84 จุด ขึ้นมาปิดที่ 1,428.03 จุด ณ วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าหุ้นที่กองทุนหุ้นไทยลงทุนอยู่ ปรับตัวเพิ่มขึ้น
“HoonSmart” สำรวจผลตอบแทน “กองทุนหุ้นไทย Larg-Cap” ใน 10 อันดับแรกที่สร้างผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่ต้นปี (2 ม.ค.2567 -10 ก.ย.2567) ข้อมูลจากบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จากจำนวนกองทุนในกลุ่มทั้งหมด 403 กองทุน พบ กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มเซ็ท 50 ชนิดจ่ายเงินปันผล สำหรับบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล (1AMSET50-ID) ทำผลตอบแทนได้สูงสุด 12.29% จากจำนวนกองทุนในกลุ่มทั้งหมด ซึ่งทำได้ดีกว่าดัชนีเปรียบเทียบเกือบเท่าตัว ดัชนีผลตอบแทนรวม SET50 (SET50 TRI) อยู่ที่ 6.26%
อันดับสอง กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นบิ๊ก (TISCOBIG) อยู่ที่ 9.57% อันดับสาม กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ ชนิดจ่ายเงินปันผล (KT-HiDiv-D) อยู่ที่ 8.98% อันดับสี่ กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ ชนิดสะสมมูลค่า (KT-HiDiv-A)อยู่ที่ 8.97% อันดับห้า กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-HiDiv RMF) อยู่ที่ 8.78%
อันดับหก กองทุนเปิดวรรณ เซ็ท ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน (ONE-SETHD) อยู่ที่ 8.72% อันดับเจ็ด กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี หุ้นไทย เมกะ ชนิดจ่ายเงินปันผล (M-MEGA-D) อยู่ที่ 8.16% อันดับแปด กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี หุ้นไทย เมกะ ชนิดสะสมมูลค่า (M-MEGA-A) อยู่ที่ 8.03% อันดับเก้า กองทุนเปิดอีสท์สปริง หุ้นปันผล (ES-DIV) อยู่ที่ 7.28% และอันดับสิบ กองทุนเปิดทิสโก้ ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป(THDRMF-A) อยู่ที่ 7.24%
ขณะที่ ผลตอบแทนของ “กองทุนหุ้นไทย Small/Mid Cap” จำนวนทั้งหมด 141 กองทุน พบ กองทุนที่ทำผลตอบแทนได้สูงสุดอยู่ที่ 12.30% ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Thai Equity Value Portfolio (ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) หรือ SCBVALUEE รองลงมา กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Thai Equity Value Portfolio ชนิดสะสมมูลค่า (SCBVALUEA) อยู่ที่ 11.71% อันดับสาม กองทุนเปิดบัวหลวงธนคม (BTK) อยู่ที่ 11.24% อันดับสี่ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวไดนามิค ชนิดจ่ายเงินปันผล (KFLTFDNM-D) อยู่ที่ 8.22% อันดับห้า กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นไดนามิคเพื่อการเลี้ยงชีพ (KFDNMRMF) อยู่ที่ 7.62%
อันดับหก กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นไดนามิค (KFDYNAMIC) อยู่ที่ 7.55% อันดับเจ็ด กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นไดนามิคปันผล (KFDNM-D) อยู่ที่ 7.46% อันดับแปด กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Thai Equity Quality Portfolio (ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) หรือ SCBQUALITYE อยู่ที่ 6.94% อันดับเก้า กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Thai Equity Quality Portfolio (ชนิดผู้ลงทุนกลุ่ม/บุคคล) หรือ SCBQUALITYP อยู่ที่ 6.59% และอันดับสิบ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Thai Equity Quality Portfolio ชนิดสะสมมูลค่า (SCBQUALITYA) อยู่ที่ 6.38%
เปิดพอร์ต “1AMSET50-ID”
สำหรับกองทุนเปิด วรรณเอเอ็มเซ็ท 50 ชนิดจ่ายเงินปันผล สำหรับบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล (1AMSET50-ID) มีนโยบายลงทุนในหุ้นเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยเน้นลงทุนในหุ้นสามัญประมาณ 25 – 30 บริษัท ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET50 อีกทั้งมีการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นขนาดกลางและเล็กเพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับกองทุน บริหารจัดการลงทุนแบบเชิงรุก (Active) มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (active management) ได้แก่ SET50 Index
กองทุน 1AMSET50-ID เป็นหนึ่งในชนิดหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด วรรณเอเอ็มเซ็ท 50 (1AMSET50) เพื่อให้เลือกลงทุนได้เลือกลงทุนตามวัตถุประสงค์ ทั้งแบบจ่ายเงินปันผลและไม่จ่ายเงินปันผล โดยกองุทุนแบ่งชนิดของหน่วยลงทุนเป็น 5 ชนิด โดยหน่วยลงทุนชนิด ID จ่ายเงินปันผลสำหรับบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ที่ต้องการรับผลตอบแทนจากเงินปันผล
ขณะที่หน่วยลงทุนชนิดไม่จ่ายเงินปันผล สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (RA) หรือ 1AMSET50-RA ,หน่วยลงทุนชนิดจ่ายเงินปันผล สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (RD) หรือ 1AMSET50-RD 3.หน่วยลงทุนชนิดไม่จ่ายเงินปันผล สำหรับบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล (IA) หรือ 1AMSET50-IA และหน่วยลงทุนชนิดไม่จ่ายเงินปันผล สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป หรือกรมธรรม์ประกันชีวิตควบหน่วยลงทุน (RU) หรือ 1AMSET50-RU
ด้านพอร์ตการลงทุน ณ วันที่ 31 ส.ค.2567 ลงทุนสูงสุดในหุ้น 5 อันดับแรก ได้แก่ ADVANC อยู่ที่ 7.51% AOT อยู่ที่ 7.17% DELTA อยู่ที่ 6.60% CPALL อยู่ที่ 6.15% และ PTT อยู่ที่ 5.70%
“กองทุน 1AMSET50 เหมาะกับผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน ซึ่งอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้ , ผู้ที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนใน ตราสารหนี้ทั่วไป”
อย่างไรก็ตามแม้ผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมีมุมมอง “บวก” ต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงในระยะสั้นและกลาง แต่การลงทุนที่มีความผันผวนจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก การเริ่มต้นวัฎจักรของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และธนาคารกลางหลายๆ แห่ง อาจทำให้นักลงทุนทั่วโลกมีการปรับพอร์ตลงทุนครั้งใหญ่ การทำ Asset Allocation กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลายรูปแบบ