ธุรกิจตุนเงิน TIDLOR กู้กสิกรฯ 2,500 ล้านบ. BJC หุ้นกู้ล้น 4 เท่าปิดขาย 1.3 หมื่นลบ.

HoonSmart.com>>เอกชนเร่งขยายธุรกิจ”เงินติดล้อ” (TIDLOR) เซ็นสัญญาเงินกู้กับธนาคารกสิกรไทย 2,500 ล้านบาท ขยายสินเชื่อทะเบียนรถ นายหน้าประกัน เล็งจับมือสนับสนุนเงินเพื่อสังคมในอนาคต  ด้าน”เบอร์ลี่ ยุคเกอร์” (BJC) คุยนักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่แห่จองซื้อหุ้นกู้ล้นกว่า 4 เท่า เสนอขาย 7,000 ล้านบาท ปิดดีล 13,000 ล้านบาท อายุ 3-10 ปี ดอกเบี้ย 2.93-3.77% ต่อปี

นาย ปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ (TIDLOR) ลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินกับนาย ทิพากร สายพัฒนา รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มูลค่า 2,500 ล้านบาท เพื่อใช้เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ และธุรกิจนายหน้าประกัน ตามแผนการดำเนินงานในปี 2567 โดยมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทั้งด้านธุรกิจสินเชื่อและด้านธุรกิจนายหน้าประกัน ที่บริษัทฯ ได้สร้างและปูพื้นฐานเทคโนโลยีเอาไว้ก่อนหน้ามามากกว่า 10 ปี  รองรับการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคต

นอกจากนี้ TIDLOR และ KBANK กำลังพิจารณาเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินและร่วมมือกันในด้านการเงินเพื่อสังคมในอนาคต โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินที่ช่วยแก้ไขปัญหาสังคมในด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของกลุ่มผู้ใช้สินเชื่อรายย่อย ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทในการมีส่วนร่วมสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

ด้านบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ผู้ดำเนินธุรกิจพาณิชยกรรมนำเข้า-ส่งออก ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าและบริการครบวงจร ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ด้วยมูลค่าเสนอขายหุ้นกู้รวม 13,000 ล้านบาท อายุหุ้นกู้ 3 ปี ถึงอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.93% ถึง 3.77% ต่อปี และมีอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ “A” แนวโน้มอันดับเครดิต”คงที่” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด

นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ กล่าวว่า  เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2567 บริษัทได้ออกหุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2567 ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 5 รุ่น ต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ได้แก่ หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.93% ต่อปี จำนวน 3,000 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.15% ต่อปี จำนวน 6,000 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.33% ต่อปี จำนวน 2,000 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.55% ต่อปี จำนวน 1,000 ล้านบาท และ หุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.77% ต่อปี จำนวน 1,000 ล้านบาท ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ  ธนาคารกรุงไทย  ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารยูโอบี

“หุ้นกู้ของเราได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างล้นหลาม ด้วยยอดจองซื้อเกินเป้าหมายกว่า 4 เท่า จากมูลค่าเสนอขายเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 7,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทพิจารณาเพิ่มมูลค่าการออกหุ้นกู้ ซึ่งเป็นหุ้นกู้ส่วนที่สำรองไว้มาเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe Option) อีกจำนวน 6,000 ล้านบาท มูลค่าขายรวม 13,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการในการลงทุนของนักลงทุนที่ให้ความไว้วางใจในการเข้าลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัท ความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีให้กับบริษัท ซึ่งมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจหลัก ตลอดจนมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์”นางฐาปณีกล่าว

นางฐาปณี กล่าวตอนท้ายว่า ในนามของ BJC ต้องขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 140 ปี โดยการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีและผู้ลงทุนให้การตอบรับที่ดีเกินกว่าที่คาดไว้ โดย BJC จะยังคงเดินหน้าเพื่อพัฒนาธุรกิจให้มั่งคงและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนคู่สังคมไทยต่อไป เพื่อให้สมกับความไว้วางใจที่ทุกคน