HoonSmart.com>> บล.กรุงศรี คาดเฟดลดดอกเบี้ยก.ย.นี้ ส่วนกนง.คาดลดปีหน้า หนุนกอง REIT ประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย หนุนจ่ายเงินปันผลสูงขึ้น ประเมิน 5 กองรีท-กองทุนอสังหาฯ -กองโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ มูลค่าตลาดมากกว่า 5 พันล้านบาท ได้รับประโยชน์หลักทันที แนะ “LHHOTEL, WHAIR, BAREIT, AIMIRT , DIF”
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทยจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ในการประชุมวันที่ 16 ต.ค. เพราะเศรษฐกิจไทยเติบโตเร่งขึ้น 2.3% y-o-y ใน 2Q24 หลังจากที่เติบโตเพียง 1.6% ใน 1Q24 และตัวเลขเศรษฐกิจ เดือน ก.ค. ส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนและปีก่อน
ด้าน Krungsri Research คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตเร่งขึ้นราว 3% y-o-y ในครึ่งปีหลัง ทำให้ทั้งปี 2024 ขยายตัว 2.4% ภาคการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยยังเผชิญความไม่แน่นอน ประกอบกับธนาคารกลางสำคัญ ได้แก่ European Central Bank และ Bank of England ได้เริ่มลดดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว
นอกจากนี้ FOMC ของสหรัฐอเมริกาน่าจะเริ่มต้นลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย.นี้
ด้านราคาหุ้น REIT ปรับขึ้นเฉลี่ย 2.1% ในเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสองเดือนติดต่อกันสนับสนุนจากการสิ้นสุดอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และ REIT มี valuation ถูก ซึ่งซื้อขายที่ เฉลี่ย0.7 เท่า P/NAV 3 กลุ่มอุตสาหกรรมแรกที่ปรับขึ้น ได้แก่ ศูนย์จัดนิทรรศการและโรงภาพยนตร์(+10.6%), คลังสินค้าและโรงงานให้เช่า (+7.2%) และศูนย์การค้า (+4.8%) ส่วน 3 อันดับแรกที่ราคาลดลงมากที่สุด ได้แก่ โทรคมนาคม (-2.4%), ที่อยู่อาศัย (-2.0%) และ ขนส่ง (-2.0%)
ผู้ได้รับประโยชน์หลัก ได้แก่ LHHOTEL, WHAIR, BAREIT, AIMIRT และ DIF เราเน้นไปที่กองทรัสต์ที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 5 พันล้านบาท ผู้ที่ได้รับประโยชน์หลักและทันทีจากอัตราดอกเบี้ยขาลง คือ REIT ที่มี LTV สูงและมีเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเป็นส่วนใหญ่ เราสมมติฐานว่าอัตราดอกเบี้ยลดลง 1% และดอกเบี้ยที่ประหยัดได้ทั้งหมดจะจ่ายเป็นเงินปันผลเพิ่มเติม
ผู้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด5 อันดับแรก ได้แก่ LHHOTEL (ผลตอบแทน เงินปันผลเพิ่มขึ้น 0.8%), WHAIR (0.8%), BAREIT (0.4%), AIMIRT (0.4%) และ DIF (0.3%) ส่วนกองทรัสต์ที่ไม่ได้รับประโยชน์เนื่องจากมีเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ได้แก่ TFFIF, BTSGIF, EGATIF และ FUTUREPF