HoonSmart.com >> BCP แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 40 บาท ปัจจัยหนุน synergy ด้านการดำเนินงานเพิ่มขึ้นในปี 2568 เมื่อโรงกลั่นมีประสิทธิภาพสูงขึ้น กับเป้าหมายเชิงรุกปี 2573 ธุรกิจต้นน้ำจะหนุนให้ EBITDA เติบโต
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) (CGSI) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบางจาก ปิโตรเลียม (BCP) ราคาเป้าหมาย 40 บาท
จากการที่ BCP ประกาศแผนลงทุน 5 ปี (2568-2573) ตั้งงบลงทุน 1.2 แสนล้านบาท ใช้งบลงทุนราว 35% เพื่อ ซื้อสินทรัพย์ในธุรกิจปิโตรเลียม โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติในเอเชียไม่เกิน 50k boe/d , จัดสรรงบลงทุนราว 3.6 หมื่นล้านบาท สำหรับธุรกิจโรงกลั่น ซึ่ง 66% จะนำมาใช้ซ่อมบำรุงโรงกลั่นสองแห่ง และเครือข่ายทางการตลาด
นอกจากนี้ BCP จะเพิ่มธุรกิจใหม่เข้ามาในพอร์ต ประกอบด้วย Data centre, CCUS (carbon capture, utilisation and storage) และไฮโดรเจน รวมทั้งตั้งเป้าใช้กระแสเงินสดภายในบริษัทและเงินกู้ในอัตรา 50:50 เป็นแหล่งเงินทุนรองรับแผนลงทุนดังกล่าว
BCP ตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA เป็น 1 แสนล้านบาทในปี 2573 จาก 3.6 หมื่นล้านบาทในปี 2566 โดยมองว่า ธุรกิจที่จะขับเคลื่อนการเติบโตคือ ธุรกิจ E&P (ปริมาณขายจากสินทรัพย์ในปัจจุบัน 50kboe/d และจากการซื้อกิจการอีก 50kboe/d) ขณะที่ตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA จากธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันปี 2573 เป็น 3.1 หมื่นล้านบาท จาก 1.9 หมื่นล้านบาทในปี 2566 ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพ, ขยายเครือข่ายสาขา รวมทั้งจากค่าการกลั่น (GRM) ที่สูงขึ้น
BCP เชื่อว่าผลประโยชน์ด้านการดำเนินงานที่คาดจะได้จาก synergy กับบมจ. บางจาก ศรีราชา (BSRC) จะเพิ่มเป็น 5 พันล้านบาทในปี 2567 จากเดิมคาด 3 พันล้านบาท และ 5.5 พันล้านบาทในปี 2568 ซึ่งส่วนหนึ่งจะมาจาก การขยายขีดความสามารถของท่าเทียบเรือ (jetty) ที่ดำเนินงานโดย BSRC ให้เรือ VLCC จอดเทียบท่าเพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งน้ำมันดิบ
BCP เผยว่าการก่อสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) คืบหน้า 55% ในสิ้นเดือนส.ค. 2567 ขณะที่คาดว่าหน่วยปรับสภาพน้ำมันพืชใช้แล้ว (UCO) จะเปิดดำเนินงานภายในเดือนธ.ค. 2567 ส่วนหน่วยผลิตหลักน่าจะเปิดเชิงพาณิชย์เดือนเม.ย.2568 โดยช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา BCP รวบรวม UCO ในประเทศได้สูงสุด 300k ลิตร/วันและปริมาณ UCO น่าจะเพิ่มเป็นราว 55-60% ของปริมาณทั้งหมดที่ต้องใช้ภายในปี 2568 ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า BCP ยังต้องนำเข้า UCO อีกราว 40-45% ทั้งนี้ BCP ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของสัญญาซื้อขายที่บริษัททำกับผู้รับซื้อหลัก (offtaker)
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มองว่า ปัจจัยลบที่จะกดดันราคาหุ้น BCP ระยะสั้นคือ การที่ crack spread ของน้ำมันดีเซลในเอเชียลดลง เพราะยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากจีน อย่างไรก็ตาม โรงกลั่นพระโขนงที่กลับมาเปิดดำเนินงานหลังหยุดซ่อมบำรุงในไตรมาส 2/2567 น่าจะทำให้ธุรกิจโรงกลั่นมีกำไรเติบโต qoq ในไตรมาส 3/2567 แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 40 บาท เนื่องจาก BCP จะมี synergy ด้านการดำเนินงานเพิ่มขึ้นในปี 2568 เมื่อโรงกลั่นมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
มองว่าราคาหุ้น BCP อาจปรับตัวขึ้น หากโรงกลั่นพระโขนง มีอัตราการใช้กำลังการผลิตสูงกว่าคาด ส่วน downside risk จะมาจากมาร์จิ้น SAF ที่หดแคบลงในปี 2568 หลังกำลังการผลิตใหม่ในสิงคโปร์เริ่มจัดส่ง SAF ให้กับสายการบินบางแห่งในสนามบิน Changi