ราคาน้ำมัน WTI ลด 0.86 เซนต์ เบรนท์ร่วง 1.43 เหรียญสหรัฐฯ กังวลอุปทานน้ำมันดิบจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังซาอุดิอาระเบียและรัสเซียส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มปริมาณการผลิต
บริษัท ไทยออยล์ รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมากกว่า 1% โดยราคาน้ำมันดิบ เวสต์เท็กซัส วันที่ 30 ต.ค. 61 ปิดที่ 66.18 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 0.86 เซนต์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิด 75.91 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 1.43 เหรียญสหรัฐฯ จากความกังวลว่าอุปทานน้ำมันดิบจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังซาอุดิอาระเบียและรัสเซียส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มปริมาณการผลิต
นอกจากนี้ คาดว่าเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มจะถูกกดดัน จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงยืดเยื้อ รวมทั้งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันพฤหัสนี้ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกับเป็นสัปดาห์ที่หก หลังซาอุดิอาระเบียและรัสเซียส่งสัญญาณที่จะเพิ่มปริมาณการผลิต ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซีย สหรัฐฯ และซาอุดิอาระเบีย ในเดือน ก.ย.61 แตะระดับ 33 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ซึ่งหมายความว่าผู้ผลิตรายใหญ่ทั้งสามประเทศสามารถรองรับความต้องการใช้น้ำมันได้ถึง 1 ใน 3 ของความต้องการใช้น้ำมันดิบโลก
บริษัทฯ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 65 -70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 74 – 79 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตามอง รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบียประกาศว่า ซาอุดิอาระเบียจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากกำลังการผลิตเดิมที่ระดับ 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อชดเชยอุปทานที่หายไปจากประเทศอิหร่านและเวเนซูเอลล่า และพร้อมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1-2 ล้านบาร์เรล หากอุปทานไม่เพียงพอต่ออุปสงค์ของโลก
การเติบโตของความต้องการน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังได้รับแรงกดดันจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงปัญหาทางเศรษฐกิจในแถบยูโรโซนและตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศอิหร่านคาดจะปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังประเทศต่างๆ ปรับลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน
ก่อนวันกำหนดการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ในวันที่ 4 พ.ย. 61