OSP ขายเงินลงทุน”ขวดแก้วในเมียนมาร์” มุ่งโตจากธุรกิจหลักตามยุทธศาสตร์ลงทุน

HoonSmart.com>>บอร์ด”โอสถสภา” (OSP) ไฟเขียวจำหน่ายเงินลงทุนในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายขวดแก้วในเมียนมาร์ (OEM) คาดแล้วเสร็จปี 67  มูลค่าคงเหลือ 136 ล้านบาท และบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้น 100% มีภาระค้ำประกันเงินกู้ประมาณ 35.8 ล้านเหรียญ ยันไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเครื่องดื่มในเมียนมาร์ บริษัทมุ่งเพิ่มศักยภาพสร้างรายได้-อัตรากำไรจากธุรกิจหลักตามแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว

บริษัท โอสถสภา (OSP) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคชั้นนำของประเทศไทย เดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์การลงทุน จำหน่ายเงินลงทุนใน MGE Group ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าที่ถือหุ้นโดยบริษัทย่อยของบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจให้บริการผลิตและจัดจำหน่ายขวดแก้ว (OEM) ในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัทฯ (Non-core Business) โดยได้พิจารณาผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในอดีตและทิศทางการดำเนินงานในอนาคตของ MGE Group เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการลงทุนของบริษัทฯ

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จำหน่ายเงินลงทุนใน MGE Group และให้บริษัทย่อยเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นแบบมีเงื่อนไขบังคับก่อน ในวันที่ 30 ส.ค. 2567 โดยจะดำเนินการตามเงื่อนไขผูกพันภายใต้สัญญา รวมทั้งการรับชำระเงินเพื่อให้ธุรกรรมมีผลเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในปี 2567 ปัจจุบันเงินลงทุนดังกล่าวมีมูลค่าเงินลงทุนคงเหลือ 136 ล้านบาท และบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้น 100% มีภาระค้ำประกันเงินกู้ให้ MGE Group เป็นจำนวนประมาณ 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาและ 15,558 ล้านเมียนมาร์จัต

นางสาวรติพร ราษฎร์เจริญ Group Chief Financial Officer เปิดเผยว่า การจำหน่ายเงินลงทุนใน MGE Group ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้า เป็นไปตามกลยุทธ์การปรับโครงสร้างทางธุรกิจที่มุ่งสร้างความแข็งแรงและขยายการเติบโตให้กับธุรกิจหลัก (Core businesses) ควบคู่กับการพิจารณาผลการดำเนินงานและการจำหน่ายเงินลงทุนที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก รวมถึงธุรกิจที่บริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นน้อยหรือไม่มีอำนาจควบคุม

การจำหน่ายเงินลงทุนนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศเมียนมาร์ของบริษัทฯ รวมถึงการดำเนินงานของธุรกิจหลัก ตลอดจนทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินงาน หรือสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มแต่อย่างใด โดยโอสถสภาพร้อมเดินหน้าผลักดันการเติบโตตามแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว เพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้และอัตรากำไรจากธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นตามแผนกลยุทธ์ระยะยาวและสอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโต 5 ปีของโอสถสภา และมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นพลังเพื่อเสริมสร้างชีวิตให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย