HoonSmart.com>> 4 โบรกเกอร์ฟันธงหุ้นเดือนก.ย.ปรับขึ้นต่อ ลุ้นทะลุ 1,400 จุด โมเมนตัมตลาดดีขึ้นหลังการเมืองชัดเจน นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจคืบหน้า เฟดส่งสัญญาณชัดจะลดดอกเบี้ยในก.ย.นี้ ดึงดูดฟันด์โฟลว์ซื้อหุ้นบิ๊กแคป กลุ่ม Domestic plays เด่น เชียร์ DELTA, CPALL, CPF, KTB, GULF, SGC, KBANK, CK, CKP, GPSC, CCET, STA, BDMS, NSL, CHG, MTC ตลาดหลักทรัพย์เริ่มใช้ 3 มาตรการเพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุน
ตลาดหุ้นไทยเดือนส.ค.2567ที่ผ่านมา เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เงินต่างประเทศไหลบ่าเข้ามาหนุนดัชนี SET ทะยานขึ้น 38.21 จุดหรือ +2.89% ปิดที่ 1,359.07 จุด เทียบกับเดือนก.ค.ปิดที่ 1,320.86 จุด ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 44,818.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,076.4 ล้านบาท หรือ +21.98% จากเดือนก.ค. ที่ซื้อขายเฉลี่ยต่อวันต่ำที่สุดในรอบปีที่ 36,742.42 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิประมาณ 6,212.65 ล้านบาท หากนำการขายบิ๊กล็อตหุ้นปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) จำนวน 12,177.18 ล้านบาทมาคำนวณด้วย
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นเดือนก.ย.นี้ นักวิเคราะห์ประสานเสียงยังคงปรับตัวขึ้นต่อ โดยน.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบ 1,380-1,400 จุด จากความชัดเจนการเมือง มีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่เข้ามาทำงานต่อได้ ผลักดันโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะ Digital Wallet ที่จะเกิดขึ้นก่อนในเดือนก.ย. จะมีการโอนเงินสดให้กับกลุ่มเปราะบางราว 1.2 แสนล้านบาท จากการใช้งบประมาณประจำปี 2567 อีกทั้งยังมีความคืบหน้าของกองทุนวายุภักษ์หนึ่ง น่าจะหนุนหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอย การบริโภค และค้าปลีก แม้แต่กลุ่มไฟแนนซ์ด้วย รวมถึงเดินหน้าการลงทุนโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ กลุ่มรับเหมาก่อสร้างได้รับผลดี และกลุ่มธนาคารจะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของสินเชื่อ
นอกจากนี้ การเมืองที่มีความชัดเจนทำให้ฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามามากขึ้น แรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ และการส่งออกไทยที่ฟื้นตัว เห็นได้จากการส่งออกเดือนก.ค.ออกมาดี โดยเฉพาะส่งออกอาหารที่เติบโตต่อเนื่อง ส่วนเงินบาทที่แข็งค่าเป็นบวกต่อกลุ่มนำเข้า และกลุ่มโรงไฟฟ้า น่าจะยังมีแรงซื้อเข้ามา อย่างไรก็ดี แม้เงินบาทจะมีทิศทางแข็งค่า แต่กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่นหุ้น DELTA ยังมีความน่าสนใจลงทุน เพราะมีการเติบโตตามเทคโนโลยี ได้ประโยชน์จากกระแส Data Center และยังเป็นบริษัทที่มีการกระจายรายได้ได้หลากหลาย
ส่วนปัจจัยนอกประเทศ ในเดือนก.ย.นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็น Sentiment บวกจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) และเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเป็นบวกต่อตลาดหุ้น
สำหรับหุ้นเด่นในเดือนก.ย.นี้ นอกจากหุ้น DELTA ที่น่าสนใจลงทุนแล้ว ยังแนะนำ CPALL ได้ประโยชน์จากการจับจ่ายใช้จ่ายที่มีมากขึ้นจากเม็ดเงินของ Digital Wallet, CPF ราคาหมูในจีน และเวียดนาม ยังยืนในระดับสูง, KTB สินเชื่อมีการเติบโตสูง และยังได้ประโยชน์จากรัฐเร่งเบิกจ่าย และ GULF นอกเหนือจากธุรกิจพลังงานแล้วยังมีการลงทุนธุรกิจเทคโนโลยีด้วย และยังได้ประโยชน์จาก Bond yield ปรับตัวลงด้วย
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นในเดือนก.ย.มองว่ายังซิกแซกขึ้นไปได้ ได้แรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด และความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยลดลง รวมถึงมีความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ พร้อมแนะนำหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของเงินไหลเข้ามาลงทุน โดยเดือนก.ย.มองกรอบแนวรับไว้ที่ 1,330-1,340 จุด แนวต้าน 1,390-1,410 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ภาพรวมเดือนก.ย.มีข่าวดีทั้งการจัดตั้งรัฐบาล มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่านโยบายของภาครัฐจะทำให้ตลาดคาดหวังได้อีก และสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนก.ย.จะมีการประชุมของเฟด ตลาดคาดการณ์จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ยังต้องติดตามรายงาน Dot plot จะออกมาเป็นอย่างไร
“การปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ย.ไม่น่าจะสร้าง Surprise อะไร ส่วนตัวคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือการประชุม 3 ครั้งในปีนี้ คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยทุกครั้ง ครั้งละ 0.25% รวมถึงคาดว่าสหรัฐจะไม่เกิดเศรษฐกิจถดถอยด้วย”นายวิจิตรกล่าว
หุ้นที่น่าลงทุนในเดือนก.ย.มองกลุ่ม Domestic plays ที่ยังอยู่ในโซนล่าง อาทิ กลุ่มค้าปลีก, ไฟแนนซ์, ธนาคาร, รับเหมาก่อสร้าง และโรงไฟฟ้า โดยแนะนำ CPALL ราคาเป้าหมาย 72 บาท, SGC ราคาเป้าหมาย 1.96 บาท, KBANK ราคาเป้าหมาย 150 บาท, KTB ราคาเป้าหมาย 20 บาท, CK ราคาเป้าหมาย 26 บาท ซึ่งมีบริษัทลูก CKP ก็น่าสนใจ เพราะไตรมาส 3 ฤดูฝนน้ำมากเป็นผลดีต่อการผลิตไฟฟ้า, GPSC ราคาเป้าหมาย 55 บาท กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ยังเล่นได้อย่าง CCET ราคาเป้าหมาย 4.10 บาท กลุ่มยางจากราคายางมีแนวโน้มดี แนะนำ STA ราคาเป้าหมาย 26 บาท มีการส่งออกไปยังยุโรป
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า เดือนก.ย.หุ้นยังคงปรับตัวขึ้นได้ ได้แรงหนุนจากการเมืองชัดเจน และเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงมีความคาดหวังคณะรัฐมนตรีมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความคืบหน้า Digital Wallet พร้อมมองหุ้นเด่นในเดือนก.ย. เป็นหุ้นในกลุ่ม Domestic แนะนำ CPALL, BDMS, NSL, CHG, KTB, MTC
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์(SET) ได้ปรับปรุง 3 มาตรการลดความผันผวนราคาที่ผิดปกติและการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม เพื่อยกระดับการกำกับดูแลการซื้อขาย และเพิ่มความเชื่อมั่นผู้ลงทุน เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 67 เป็นต้นไป ดังนี้
1. Auction Matching เพิ่มมาตรการให้ซื้อขายด้วยวิธีจับคู่ซื้อขายในคราวเดียว (ประมูล) ตามช่วงเวลาที่ตลาดฯ กำหนด สำหรับหุ้นที่มีการซื้อขายผิดปกติ ตั้งแต่ในระดับ T2, T3
2.Dynamic Price Band การกำหนดกรอบราคาซื้อขาย ±10% เป็นรายหุ้นจากราคาซื้อขายล่าสุด เพิ่มเติมจาก Ceiling & Floor ในปัจจุบัน (±30% จากราคาปิดในวันทำการก่อนหน้า) เพื่อเพิ่มกลไกในการควบคุมความผันผวนของราคาซื้อขายหากเกิดการซื้อขาย ±10% จากราคาซื้อขายล่าสุด จะให้หยุดซื้อขายและเข้าช่วง Pre-Open 2 นาที หลังครบ 2 นาที จะเปิดให้ซื้อขายปกติ
3.Minimum Resting Time กำหนดเวลาขั้นต่ำของคำสั่งซื้อขาย ก่อนที่จะแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งซื้อขายได้ เพื่อชะลอและป้องกันไม่ให้เกิดคำสั่งซื้อขายในลักษณะใส่-ถอนที่มีความถี่มากจนเกินไปจนอาจทำให้ผู้ลงทุนเข้าใจผิดว่ามีความต้องการซื้อหรือขายในปริมาณมาก