บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เล็ง COCOCO กำไรปี 66-67 โตหลังรุกน้ำมะพร้าว

HoonSmart.com>>บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประเมินราคาเป้าหมายปี 67 ของ”ไทย โคโคนัท”(COCOCO) ไว้ที่ 10.80 บาท อิงค่า PER เฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มที่ 24 เท่า มองน้ำมะพร้าวจะมาเป็นรายได้หลักแทนกะทิ ทั้งนี้ คาดกำไรปี 66 โต 22.5% และปี 67 จะเร่งตัวอีก 42% หลังประสบความสำเร็จในการรุกตลาดน้ำมะพร้าวในจีนตั้งแต่ไตรมาส 2/66 และเพิ่มกำลังการผลิตเท่าตัวในปี 67

บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ของบริษัท ไทย โคโคนัท (COCOCO) ที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ประเมินราคาเป้าหมายปี 67 ของ COCOCO ไว้ที่ 10.80 บาท โดยอิงค่า PER เฉลี่ยหุ้นกลุ่มเครื่อมดื่มที่ 24 เท่า ทั้งนี้ มองว่าผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวจะก้าวมาเป็นรายได้หลักแทนผลิตภัณฑ์กะทิ และมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงต่อเนื่อง เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มที่เทรดในตลาดฯ ปัจจุบัน

ทั้งนี้ คาดกำไรปี 66 จะเติบโต 22.5% และ ปี 67 จะเร่งตัวอีก 42% หลังประสบความสำเร็จในการรุกตลาดน้ำมะพร้าวในจีนตั้งแต่ไตรมาส 2/66 และเพิ่มกำลังการผลิตเท่าตัวในปี 67 ทั้งนี้ไทยมีจุดเด่นน้ำพร้าวน้ำหอม ที่มีรสหอมหวานกลมกล่อม และมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย บวกกับชาวจีนใส่ใจในสุขภาพมากขึ้นหลังปลดล็อกดาวน์โควิด และเปิดประเทศตั้งแต่ต้นปีนี้ยอดสั่งซื้อน้ำมะพร้าวจากจีนพุ่งสูงขึ้นมาก จนกำลังการผลิตน้ำมะพร้าวเพิ่มจาก 43% ในงวดไตรมาส 1/66 เป็น 73% ในไตรมาส 2/66 และด้วยประชากรจีนที่มีอยู่ 1.4 พันล้านราย สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้บริษัทเชื่อกำลังการผลิตน้ำพร้าวจะเต็มภายในปีนี้ จึงมีแผนซื้อเครื่องจักรเพิ่มกำลังการผลิตมะพร้าวจาก 1.1 แสนตันต่อปีเป็น 2.18 ล้านตันต่อปีในปี 67 เป็นปัจจัยหนุนให้คาดกำไรปี 66 จะเติบโตต่อเนื่องอีก 22.5% เร่งตัวอีก 42% ในปี 67

นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมแผนผลิตและจัดจำหน่ายอาหารแพลนท์เบส ที่ทำจากพีช เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว

ทั้งนี้ ลดต้นทุนโดยควบคุมกระบวนการผลิตและการปรับเทคนิคการผลิตอย่างต่อเนื่องบวกกับการปรับขึ้นราคาขายในปี 64 หนุนกำไรปี 64 โต 190% และปี 65 โตต่อเนื่องอีก 28% โดยรายได้จากการขายและบริการปี 64 เพิ่มขึ้น 28% YoY จากการปรับขึ้นราคาตามราคามะพร้าวที่สูงขึ้น แม้ปริมาณขายลดบวกกับการประสิทธิภาพการทำกำไร โดยควบคุมกระบวนการผลิตและการปรับเทคนิคการผลิตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 64 หนุน GPM เพิ่มขึ้นจาก 15.9% ในปี 63 เป็น 19.4% ช่วยให้กำไรปี 64 เติบโตโดดเด่นถึง 190% ขณะปี 65 รายได้ขายและบริการลดลง 2.6% YoY จากผลกระทบสถานการณ์ในยุโรปที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจหดตัว และปัญหาการขาดแคลนระวางเรือขนส่ง แต่ GPM ยังปรับขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 23.8% จากผลของการปรับเทคนิคการผลิตอย่างต่อเนื่องช่วยหนุนกำไรปี 65 เติบโตต่อเนื่องอีก 28%

COCOCO เป็นผู้ผลิตและส่งออกกะทิและน้ำมะพร้าวรายใหญ่ของไทยสัดส่วนสินค้าที่ผลิตและส่งออกราว 80% อีก 20% ขายภายในประเทศ ส่วนใหญ่ผลิตภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า (OEM) และยังมีขายสินค้าแบรนด์ของตนเองด้วย นอกจากกะทิและน้ำมะพร้าวที่เป็นรายได้หลักแล้ว ยังขายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น น้ำผลไม้ แยมผลไม้ มะพร้าวฝอยอบแห้ง เป็นต้น คิดเป็นราว 3.64% ของรายได้ขายและบริการรวมทั้งยังผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง คิดเป็น 7.93%ของรายได้ขายและบริการ ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัทย่อย ไทยออซัม รวมถึงยังเตรียมผลิตและส่งออกสินค้าแพลนท์เบส แช่แข็ง ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัทย่อย ไทย แพลนท์ เบส ฟู้ด และเตรียมผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชีสและเนยที่ทำจากพืช ภายใต้บริษัทร่วมค้า จัสท์ไลค์ แอนด์ มอร์ เพื่อเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว