SCGP กำไร 1,485 ลบ. Q2/66 ลดลง 20% ปันผลครึ่งปี 25 สต.

HoonSmart.com>> “เอสซีจี แพคเกจจิ้ง” (SCGP) เปิดกำไรไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 1,485 ล้านบาท ลดลง 20% รายได้จากการขายร่วง 14% เหตุเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ความต้องการบรรจุภัณฑ์ทั้งในและต่างประเทศลดลง เทียบไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 22% ส่วนงวด 6 เดือนกำไร 2,705 ล้านบาท ลดลง 15% บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.25 บาท ขึ้น XD 8 ส.ค.นี้

บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 1,484.78 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.35 บาท ลดลง 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,855.93 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.43 บาท

ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2566 กำไรสุทธิ 2,705.27 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.63 บาท ลดลง 23% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 3,513.89 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.82 บาท

สำหรับงวดไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิลดลง 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 5% โดยมีรายได้จากการขาย 32,216 ล้านบาท ลดลง 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน รายได้จากการขายที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งกระทบต่อความต้องการบรรจุภัณฑ์ทั้งจากตลาดในประเทศและส่งออก โดยเฉพาะสินค้าคงทนและสินค้าไม่จำเป็น

ขณะที่รายได้จากการขายเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงเล็กน้อย จากปริมาณการขายของกระดาษบรรจุภัณฑ์ลดลง โดยเป็นผลกระทบจากช่วงวันหยุดเทศกาลโดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย ในขณะที่รายได้จากการขายสำหรับบรรจุภัณฑ์จากพอลิเมอร์กับบรรจุภัณฑ์อาหารเพิ่มขึ้น

ส่วนงวด 6 เดือนแรกกำไรลดลง 23% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 4% โดยกำไรลดลงจากงวดปีก่อนจากราคาขายที่ลดลง โดยเฉพาะกระดาษบรรจุภัณฑ์ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกันกับรายได้จากการขาย บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 65,945 ล้านบาท ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 8% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปีก่อน

รายได้จากการขายที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักจากปริมาณและราคาขายของกระดาษบรรจุภัณฑ์ลดลง ในช่วงที่อุปสงค์ของบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนและตลาดส่งออกยังชะลอตัว และรายได้จากการขายที่ลดลงจากช่วงครึ่งปีหลังของปีก่อน มาจากราคาขายของกระดาษบรรจุภัณฑ์และเยื่อที่ลดลง

ขณะที่กำไรสำหรับงวดที่เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีหลังของปีก่อน มาจากต้นทุนหลัก เช่น วัตถุดิบ ค่าขนส่ง และพลังงานปรับตัวลดลง ทั้งนี้ SCGP ได้ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องกับการลดต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และการจัดการเงินทุนหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. -30 มิ.ย. 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 1,073 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 9 ส.ค. 2566 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 8 ส.ค. 2566 จ่ายเงิน 22 ส.ค.2566