HoonSmart.com>>กระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขส่งออกเดือนก.ค.ทะยานขึ้น 15.2% สูงกว่าคาดการณ์ที่ 5-8% ขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่มี.ค.65 เติบโตทุกกลุ่มสินค้า รวม 7 เดือนโต 3.8% มั่นใจทั้งปีขยายตัวเข้าเป้าแตะระดับสูงสุด 2% สภาผู้ส่งออกทางเรือเตือนเงินบาทแข็งคิดให้ดีก่อนตกลงทำสัญญาซื้อขายสินค้าช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้า ศูนย์วิจัยกสิกไทยเผยส่งออกโตเกินคาดจากทองคำพุ่งขึ้น 434.1%
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศ เดือนก.ค.2567 ส่งออกมีมูลค่า 25,720.6 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 15.2% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 5-8% และขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 28 เดือน นับตั้งแต่มี.ค.2565
ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 27,093.8 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 13.1% ส่งผลให้ในเดือนก.ค. กลับมาขาดดุลการค้า 1,373.2 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่เกินดุลการค้าในเดือนพ.ค.และ มิ.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับการส่งออกในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.2567) มีมูลค่ารวม 171,010.6 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 3.8% การนำเข้า มีมูลค่ารวม 177,626.5 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 4.4% โดยรวมไทยยังขาดดุลการค้า 6,615.9 ล้านดอลลาร์
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สนค. มั่นใจว่าการส่งออกของไทยในปี นี้ จะอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1-2% และมีโอกาสสูงที่จะขยายตัวได้ในกรอบบน ซึ่งจะทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลกที่กำลังปรับตัวดีขึ้น แม้ยังมีปัจจัยเสี่ยงเช่น สถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ และความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจและการค้า หลังการเลือกตั้งในหลายประเทศสำคัญ
“ส่งออกเดือนก.ค.ขยายตัวในทุกกลุ่มสินค้า ทั้งเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร และอุตสาหกรรม ปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากการฟื้นตัวของความต้องการซื้อสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลก ตามเทคโนโลยีดิจิทัล และการส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญ ที่ได้รับประโยชน์ด้านราคาที่สูงขึ้นจากภาวะอุปทาน (Supply) ในตลาดโลกที่น้อยลง แต่ยังคงมีปัจจัยกดดัน ได้แก่ ค่าระวางเรือของโลกสูงขึ้นจากเดือนมิ.ย. และสินค้าส่งออกสำคัญบางรายการ ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันของสินค้าใหม่ที่เข้ามาทดแทนสินค้าเดิมในตลาดโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ”นายพูนพงษ์กล่าว
สำหรับสินค้าเกษตร มีมูลค่าส่งออก 2,245.6 ล้านดอลลาร์ กลับมาขยายตัว 3.7% โดยสินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ ยางพารา, ข้าว, ไก่สด แช่เย็นแช่แข็ง และแปรรูป ส่วนอุตสาหกรรมเกษตร มีมูลค่าส่งออก 2,118.3 ล้านดอลลาร์ กลับมาขยายตัว 14.6% โดยสินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์, อาหารสัตว์เลี้ยง, อาหารทะเลกระป๋อง-แปรรูป และสินค้าอุตสาหกรรม มีมูลค่าส่งออก 20,254.2 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 15.6% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยสินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน, เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ, ผลิตภัณฑ์ยาง
ขณะที่การส่งออกไปตลาดสำคัญส่วนใหญ่ขยายตัวได้ดี ตามภาพรวมเศรษฐกิจคู่ค้าที่มีสัญญาณปรับดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดหลัก อาทิ สหรัฐฯ, จีน, อาเซียน (5), กลุ่ม CLMV และสหภาพยุโรป ส่วนตลาดสวิตเซอร์แลนด์ ขยายตัวสูงที่สุด 517.5% ตามด้วยเอเชียใต้ ขยายตัว 29.5% และสหรัฐฯ ขยายตัว 26.3% ส่วนจีนอยู่อันดับสิบที่ขยายตัว 9.9%
ด้านนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกในปีนี้ คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย 1-2% แม้ว่าเงินบาทแข็งอาจมีผลกระทบกับคำสั่งซื้อใหม่ในช่วงปลายปีนี้ ถึงต้นปีหน้าอยู่บ้าง ซึ่งผู้ส่งออกต้องพิจารณาปัจจัยค่าเงินให้ดีก่อนตกลงทำสัญญาซื้อขายสินค้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า การส่งออกที่ขยายตัว 15.2% สูงกว่าที่ตลาดคาด โดยเป็นผลของฐานที่ต่ำในเดือนก.ค.2566 และส่งออกทองคำที่ขยายตัวถึง 434.1% เป็นปัจจัยหนุนสำคัญ หากหักทองคำออกการส่งออกยังคงโตถึง11%
อย่างไรก็ดี ภาพการส่งออกยังมีปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าอ่อนแอลง รวมถึงปัจจัยลบจากภายในประเทศ อาทิ ความสามารถในการแข่งขันของไทยที่ลดลง และความไม่แน่นอนของสภาพอากาศ
ดังนั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการส่งออกในปี 2567 ขยายตัวที่ 1.5% แต่มีโอกาสมากขึ้นที่จะโตได้มากกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะหากการส่งออกทองคำยังขยายตัวในอัตราที่สูง