HoonSmart.com>>ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,531.01 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด ราคาน้ำมันขึ้นจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และอุปทานจะตึงตัวมากขึ้นในครึ่งหลังปี 66 ช่วงรอติดตามการประชุมหลายธนาคาร ทั้งเฟด-ECB-BOJ โดยเฉพาะเฟดคาดใกล้ยุติขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ขณะที่ยังต้องติดตามความคืบหน้าการเมือง แนวโน้มภาคบ่ายลุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวกได้แต่ก็ไปได้ไม่แรง แนวรับ 1,525 แนวต้าน 1,540-1,545 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 24 ก.ค.2566 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,531.01 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด หรือ +0.12% มูลค่าการซื้อขาย 29,945.67 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,537.15 จุด และต่ำสุด 1,526.77 จุด
น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย รับแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในหลายกลุ่ม ทั้งพลังงาน, สื่อสาร และค้าปลีก รวมถึงราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นช่วยหนุนหุ้นที่เกี่ยวข้อง จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และอุปทานจะตึงตัวมากขึ้นในครึ่งหลังปี 66 ส่วนการเมืองค่อย ๆ ผ่อนคลายลงและมีโอกาสได้เห็นรัฐบาลใหม่เร็วกว่าที่คาดไว้เดิม อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามดูการจับขั้วรัฐบาล ซึ่งให้ดูมติของ 8 พรรคร่วมที่จะแถลงในวันที่ 25 ก.ค.ก่อนโหวตเลือกนายกฯในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ทั้งนี้ ถ้าเห็นการจัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้วไปรัฐบาลเดิม อาจเห็นแรงกระเพื่อมนอกสภาพ ซึ่งจะเป็นแรงกดดัน Sentiment การลงทุนได้เหมือนกัน
ทั้งนี้ ให้ติดตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ จากสัปดาห์ที่แล้วเริ่มเห็นแรงซื้อต่างชาติสลับเข้ามาบ้าง ตลาดฟิวเจอร์มีแรงซื้อชัดเจน ซึ่งมองถ้าการจัดตั้งรัฐบาลชัดเจนก็จะกระตุ้นแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติได้ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการประชุมหลายธนาคารกลางในสัปดาห์นี้ ทั้งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) รวมถึงธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยตลาดมองเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และใกล้ยุติการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว อีกทั้งยังมีแรงเก็งกำไรตามผลประกอบการไตรมาส 2/66 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยออกมา
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และเฟดใกล้ยุติขึ้นดอกเบี้ย ทำให้เริ่มเห็น Fund Flow ไหลเข้ามาในเอเชียในสัปดาห์ที่แล้ว
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดยังลุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวกได้แต่ก็ไปได้ไม่แรง โดยมีแนวรับ 1,525 จุด แนวต้าน 1,540-1,545 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 125.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -2.71% มูลค่าซื้อขาย 6,724.66 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 107.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -2.71% มูลค่าซื้อขาย 1,882.76 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 167.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.52% มูลค่าซื้อขาย 1,764.75 ล้านบาท
KKP ปิดที่ 56.75 บาท ลดลง 3.75 บาท หรือ -6.20% มูลค่าซื้อขาย 1,193.16 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 34.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,148.01 ล้านบาท