HoonSmart.com>>บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองแนวโน้มดัชนี แกว่งตัว Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,350-1,365 จุด แรงหนุนจากประธานเฟดที่เจ็คสัน โฮล ส่งสัญญาณชัดเจนเริ่มลดดอกเบี้ยเดือนก.ย.นี้ บอนด์ยีลด์ ค่าเงินสหรัฐฯอ่อนตัว ปัจจัยในประเทศยังหวังเชิงบวกต่อรัฐบาลใหม่เริ่มปฏิบัติหน้าที่เดือนก.ย. ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว แนะหุ้น TASCO คาดความต้องการยางมะตอยสูงขึ้นจากสถานการณ์รับน้ำท่วม
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส คาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,350-1,365 จุด โดยมี Sentiment หนุนจากต่างประเทศหลังถ้อยแถลงของประธาน FED ที่ Jackson Hole Symposium เมื่อคืนวันศุกร์ระบุชัดเจนว่า การลดดอกเบี้ยจะเริ่มต้นในเดือนก.ย. ขณะที่ไม่คาดว่าตลาดแรงงานจะอ่อนแรง หนุนให้เม็ดเงินยังคงไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง Bond Yield และ Dollar Index อ่อนตัวลงต่อเนื่อง ส่วนจะปรับลด 25 หรือ 50 bps อยู่ที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ว่าจะแข็งแรงหรือชะลอตัวมากน้อยเพียงใด
ส่วนปัจจัยในประเทศภาพรวมตลาดยังคงคาดหวังเชิงบวกต่อรัฐบาลใหมที่คาดจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ภายในเดือนก.ย.และมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี ยังคงเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Domestic Play โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอย่างค้าปลีก อาหาร ไฟแนนซ์ เป็นต้น ให้สามารถ Outperform ได้ต่อเนื่อง
แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะยังอยู่ในทิศทางไหลเข้าและเร่งตัวขึ้นหลังถ้อยแถลงของประธาน FED ในสัมมนาประจำปีที่ Jackson Hole ส่งสัญญาณชัดเจนว่า FED จะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. ขณะที่ตลาดแรงงานยังแข็งแรง
อย่างไรก็ตามเชื่อว่า หากดัชนีปรับเข้าหากรอบเป้าหมายของเราที่ 1,360-1,380 จุด จะเริ่มเห็นการชะลอลดความร้อนแรงระยะสั้นจากสัญญาณเทคนิคที่คาดว่าจะ Overbought อย่างไรก็ตามคาดการพักตัวจะไม่รุนแรง และมีปัจจัยหนุนรออยู่คือกองทุนวายุภักษ์วงเงิน 1-1.5 แสนล้านบาทที่คาดเม็ดเงินจะเข้าสู่ตลาดใน 4Q24 หนุนการฟื้นตัวระยะยาว
หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร “TASCO” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA consensus 18.57 บาท
มองระยะสั้นหุ้นมีโอกาสได้แรงหนุนจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาพเหนือที่เริ่มรุนแรงขึ้น หากลุกลามและขยายมายังจังหวัดอื่นๆในภาคกลางตอนบน จะเป็น Sentiment หนุน TASCO จาก
การซ่อมแซมถนนหลังน้ำลด หนุนความต้องการยางมะตอยในประเทศ
ขณะที่ภาพรวมแนวโน้มกำไร 2H24 คาดเร่งตัวขึ้นจาก 1H24 จากการเบิกจ่ายงบฯ67 ที่เร่งตัวใน 3Q24 ขณะที่งบปี 68 คาดไม่ล่าช้าอย่างมีนัยยะเหมือนปีก่อน วางแนวรับ 16.60-16.40