โบรกฯ มอคาดหุ้นแกว่งตัว 1,630 – 1,645 จุด ปัจจัยบวกและลบคละกัน ตลาดได้รับแรงกดดันเพิ่มสหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีสินค้าจีนส่วนที่เหลือ “ฟินันเซีย ไซรัส”คาดตลาดให้น้ำหนักผลประกอบการ Q3/61 แนะเก็งกำไรหุ้นคาดงบสวย
บล.โนมูระ พัฒนสิน (CNS) คาดตลาดหุ้นวันนี้ “Sideway-Sideway Up” แนวต้าน 1,645/1,654 จุด ส่วนแนวรับ 1,628/1,618 จุด โดยมีประเด็นสหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีสินค้าจีนที่เหลือทั้งหมด รวม 2.57 แสนล้านดอลลาร์ หากการเจรจาระหว่างทรัมป์และสีไม่สำเร็จ กดดันจิตวิทยาการลงทุน ทั้งนี้ แรงกดดันจากฝั่งจีนน่าจะลดลง หลังจีนเตรียมปรับลดภาษีกลุ่มยานยนต์ในประเทศลง 50% ลดความเสี่ยงสงครามการค้าต่อจีน และบวกต่อเอเชีย ผสานแรงขายต่างชาติต่อตลาดเอเชียเริ่มเบาบางลง คาดช่วยคาดแรงกดดันจากฝั่งสหรัฐฯได้
วันนี้แนะนำ Theme “Domestic Play” ได้แก่ AOT, CPALL, STEC
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามาหนุน และมีแรงกดดันเพิ่มเติมหลังสหรัฐฯเตรียมเก็บภาษีสินค้าจีนส่วนที่เหลืออีก 2.57 แสนล้านเหรียญหากการเจรจาระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศไม่เป็นผล ทำให้กรอบการบวกของตลาดระยะนี้คาดว่ายังจำกัดบริเวณ 1,645-1,655 จุด รวมถึงเชื่อว่าตลาดจะเริ่มจับตาและให้น้ำหนักมากขึ้นกับการประกาศผลประกอบการ 3Q18 บ้านเราของกลุ่ม Real Sector ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าที่จะออกมาหนาแน่น
กลยุทธ์แนะเก็งกำไรหุ้นที่คาดมีกำไร 3Q18 แข็งแกร่ง//ทำกำไรระยะสั้นในช่วงตลาดปรับขึ้น โดยหุ้นเด่นเดือนต.ค. : BDMS, CPALL, CPN, MINT, PTTGC
บล.กรุงศรี มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้เป็นกลางคาดดัชนีแกว่งตัว 1,630 – 1,645 จุด จากปัจจัยบวก/ลบที่คละเคล้า โดยมีปัจจัยลบจากข่าวสหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่วงเงิน 2.57 แสนล้านดอลล่าร์ หากการเจรจานอกรอบการประชุม G20 ระหว่างสหรัฐ-จีนในเดือนหน้าล้มเหลว ส่งผลให้ความกังวลปัญหา Trade war กลับมากดดันภาพการลงทุนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม Sentiment เชิงบวกภายในประเทศจากคาดการณ์คมนาคมจะเสนอครม.พิจารณา 5 โครงการมูลค่า 2 แสนล้านบาทในสัปดาห์นี้ รวมทั้งแรงซื้อกองทุน LTF/RMF ที่ช่วยหนุนในจังหวะที่ตลาดย่อตัว นอกจากนี้ Fund flow ต่างชาติที่เริ่มขายน้อยลง และพลิกเป็น Net Long TFEX 3 วันต่อเนื่องราว 2.4 หมื่นสัญญาจะช่วยพยุงให้ภาวะตลาดไม่เป็นลบรุนแรงและมีโอกาสเด้งรีบาวด์ช่วงอ่อนตัวได้
บล.เอเอสแอล คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway โดยมี Sentiment ยังคงแนะนำให้นักลงทุนเลือก Selective Buy โดยเน้น (1) กลุ่ม Domestic Play ที่รายได้อิงจากเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงแข็งแกร่งเป็นหลัก (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้ประโยชน์จากงานก่อสร้างโครงการพื้นฐาน (3) สะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาปรับตัวลงมามาก โดยเลือก AOT CPALL BJC GLOBAL PLANB STEC และ SEAFCO