หุ้นปิดบวก 2.88 จุด ไซด์เวย์รอผลโหวตเลือกนายกฯ ต่างชาติขาย 11 ลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดบวก 2.88 จุด ตามตลาดต่างประเทศหลังเงินเฟ้อสหรัฐชะลอลง ส่งบอนด์ยีลด์-เงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลง แต่ตลาดหุ้นไทยอ่อนกว่าตลาดต่างประเทศ จากปัญหาการเมืองยังไม่ปลดล็อก ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 121.10 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 425.07 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนพรุ่งนี้ซึมตัวลงได้ จากภาพการโหวตเลือกนายกฯวันนี้ไม่น่าถูกใจสีส้มเท่าไร แนวรับ 1,480 แนวต้าน 1,500-1,510 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 13 ก.ค.66 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,494.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.88 จุด หรือ +0.19% มูลค่าซื้อขาย 40,447.57 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,497.24 จุด ต่ำสุด 1,487.48 จุด

นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 11.67 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 315.64 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 121.10 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 425.07 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นเคลื่อนไหวไซด์เวย์ อ่อนกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ ต่างก็เคลื่อนไหวในแดนบวกกัน หลังเงินเฟ้อสหรัฐลดลงมา ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐลงมาต่ำสุดในรอบ 14 เดือน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ก็ค่อย ๆ ชะลอตัวลง ขณะที่ตลาดหุ้นไทยย่อตัวลงบ้างในระหว่างเทรด จากปัญหาการเมืองที่ยังไม่ปลดล็อก และยังต้องจับตาการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเย็นนี้ ซึ่งยิ่งไม่จบเร็วก็จะสร้างความกังวลเกี่ยวกับความรุนแรง เห็นได้จากผู้ชุมนุมมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยถ้าพรรคก้าวไกลไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลก็กังวลอาจจะมีการชุมนุมกระจายออกไปทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อ Sentiment การลงทุน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีอะไรรุนแรง

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เริ่มออกมากันแล้ว และติดตามการพรีวิวงบฯด้วย ส่วนนอกประเทศให้ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ค.) และติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่จะออกมาในวันนี้

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ค.) ตลาดมีโอกาสซึมตัวลงได้ จากภาพการโหวตเลือกนายกฯวันนี้ไม่น่าถูกใจสีส้มเท่าไร พร้อมให้แนวรับ 1,480 จุด แนวต้าน 1,500-1,510 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
AOT ปิดที่ 69.25 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -2.81% มูลค่าซื้อขาย 3,538.41 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 62.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.80% มูลค่าซื้อขาย 2,224.69 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 34.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 2,037.51 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 27.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -1.79% มูลค่าซื้อขาย 1,829.25 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.77% มูลค่าซื้อขาย 1,402.20 ล้านบาท