HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับวันนี้ 1,480 – 1,490 แนวต้าน 1,500 – 1,510 จุด รอผลโหวตเลือกนายกฯ แนะทยอยซื้อหุ้นแบงก์ พลังงาน หุ้นกลุ่มปลอดภัย พร้อเสิร์ฟหุ้นวันนี้แนะ BPP คาดกำไรปกติไตรมาส 2/66 ฟื้นตัวต่อเนื่อง หุ้น PR9 ผลงานเติบโต
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มหุ้นวันนี้ วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,480 – 1,490 แนวต้าน 1,500 – 1,510 จุด รอผลโหวตเลือกนายก ฯ แนะนำทยอยซื้อ BBL, KBANK, SCB, KTB คาดกำไร Q2/66 ฟื้นตัว QoQ,YoY พลังงาน PTT, PTTEP, TOP, BCP คาดอุปสงค์ฟื้นตัว หลังเฟดอาจชะลอขึ้นดอกเบี้ย กลุ่มปลอดภัย ADVANC, INTUCH
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.25%, S&P500 +0.74%, Nasdaq +1.15% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลัง US CPI มิ.ย. ลดลงอยู่ที่ 3.0% & พ.ค. 4.1% YoY ต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่กลุ่มธนาคารปรับขึ้นก่อนรายงานกำไร Q2/66 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.51% ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร, เหมื่องแร่ และผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์
หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BPP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 16.80 บาท) แนวโน้มกำไรปกติ 2Q66 ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ มีแรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในช่วงหน้าร้อน โดยส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนโรงไฟฟ้าหงสา HCP และ BLCP ดีขึ้นเนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงลดลง ส่วนโรงฟ้าในจีนแม้ผ่านช่วง Peak แต่มีปัจจัยหนุนจากต้นทุนถ่านหินที่ปรับลดลง
ขณะที่โรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ Temple I คาดปริมาณขายไฟฟ้าดีขึ้นตามสภาพอากาศที่ร้อนและ Heat Wave ใน Texas นอกจากนี้ยังเข้าไปลงทุนเพิ่มใน Temple II เสร็จสิ้นในเดือน ก.ค.66 ทำให้ BPP มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมเพิ่มเป็น 3.7 GW จากเป้าหมายระยะยาวที่ต้องการเพิ่มกำลังผลิตเป็น 5.3 GW ในปี 68
หุ้น PR9 (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 21.70 บาท) ประเมินภาพรวมการดำเนินงานในปี2566 จะยังสามารถเห็นการเติบโตได้ โดยปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศ(โดยเฉพาะคลีนิก IVF ที่เน้นผู้ป่วยชาวจีน) จะสามารถ outweight รายได้ที่เกี่ยวเนื่องกับ Covid-19 ได้ นอกจากนี้กลุ่มผู้ป่วย IPD ของ PR9 ส่วนมากจะเป็นผู้ป่วยกลุ่มโรคซับซ้อนที่มีรายได้ต่อบิลสูงกว่าผู้ป่วย Covid-19 โดยทางผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี66 จะเติบโต 8-9% และ วางงบลงทุน 500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ รวมปรับปรุงพื้นที่อาคาร A ชั้น 1 เพื่อรองรับเฉพาะผู้ป่วยชาวต่างชาติ
ทั้งนี้ตลาดคาด กำไรสุทธิ ปี66 และ ปี67 จะขยายตัวต่อเนื่องมาอยู่ที่ 578 ล้านบาท (+2%YoY) และ 645 ล้านบาท (+12%YoY) ตามลำดับ