หวัง ‘ครม.ดรีมทีม’ กู้วิกฤตศก.-หุ้น ‘แพทองธาร’นั่งนายกฯ ดันตลาดบวกช่วงสั้น

HoonSmart.com>>คนวงการหุ้นอยากได้ดรีมทีมครม.เศรษฐกิจ “ที่เก่งและดี” เข้ามากู้สถานการณ์วิกฤตไทยพ้นจากหลุมลึก “แพทองธาร ชินวัตร” ได้รับเสียงโหวตเกินครึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ตามคาด หนุนหุ้นบวกแรงทะลุ 1300 จุด นักวิเคราะห์มองดีขึ้นช่วงสั้นเท่านั้น มีปัญหาต้องแก้อย่างจริงจังอีกมาก คาดนโยบายกระตุ้นตลาดทุนเดินหน้าต่อ หวั่นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่ชัดเจน ด้านกำไรบจ.ไตรมาส2/67 ประมาณ 2.5-2.6 แสนล้านบาทต่ำกว่าเป้า จ่อถูกลดน้ำหนัก

วันที่ 16 ส.ค. 2567 “แพทองธาร ชินวัตร” ได้รับเสียงโหวตเกินครึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ตามคาด รวมถึงตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดเอเชียหลายแห่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% หลังคลายกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย ส่งผลให้ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นแรงปิดที่ 1,303 จุด เพิ่มขึ้น 13.16 จุด คิดเป็น 1.02% มูลค่าการซื้อขายปานกลาง 35,690.97  ล้านบาท ด้านนักลงทุนต่างชาติซื้อเพียง 334.60 ล้านบาท  สถาบันไทยซื้อ 796.82 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนไทยขายทำกำไร  1,141.07  ล้านบาท

นักวิเคราะห์เตือนนักลงทุนอย่าเพิ่งเข้าไปลุยซื้อหุ้น หลังได้นายกฯคนใหม่ การเมืองไม่สุญญากาศ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงตกต่ำ คาดว่าวันจันทร์ที่ 19 ส.ค.2567 สภาพัฒน์แถลงตัวเลขการเติบโตประมาณ 2-2.1% แม้ว่าจะดีขึ้นจากไตรมาสแรก แต่โตต่ำกว่าหลายประเทศในเอเชีย เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนามที่เติบโตมากกว่า 5% ในไตรมาสที่ 2  และทั้งปีนี้ เพราะไทยเจอปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน-ภาคธุรกิจสูง รวมถึงความไม่แน่นอนจากต่างประเทศ เช่น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจโลกผันหวน ปรากฎการณ์เอลนีโญมีผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร

ขณะเดียวกันบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ประกาศกำไรไตรมาสที่ 2/2567 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยบล.ดาโอรวบรวมกำไรได้ทั้งสิ้น 2.61 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.0% YoY ลดลง 2.9% QoQ ต่ำกว่าตลาดคาด 3.8% (Bloomberg) ส่วนบจ.mai มีกำไรรวม 2,460 ล้านบาท+98.6% YoY -48% Q0Q โดยหุ้นกลุ่มอาหาร พลังงาน และขนส่ง หนุนกำไรเทียบ QoQ  ขณะที่กลุ่ม ICT ถ่วงกำไรตลาด

“มีแนวโน้มที่หุ้นหลายตัวจะถูกปรับลดคำแนะนำลง รวมถึงเป้าหมายดัชนีฯด้วย  ดังนั้นนักลงทุนควรให้ความสนใจหุ้นที่ถืออยู่ เนื่องจากผลประกอบการและแนวโน้มธุรกิจหลายตัวส่งสัญญาณว่ากำลังแย่ลง อาจต้องขายออกหรือลดการถือหุ้นเหล่านั้นลง”บล.ดาโอให้คำแนะนำการลงทุนในช่วงนี้

ส่วนบล.กรุงศรีเปิดเผยกำไรของบจ.ทั้งสิ้น 2.55 แสนล้านบาท เติบโต 17.6% YoY รวมครึ่งปีนี้ 5.23 แสนล้านบาท หรือประมาณ 47% ของประมาณการ คาดครึ่งปีหลังจะเร่งขึ้นตามเศรษฐกิจ คาดการณ์กำไรตลาดทั้งปี 90บาทต่อหุ้น+/- ทำได้

ส่วนแนวโน้มตลาดหลังโหวตตั้งนายกฯฉลุย นักวิเคราะห์มองตรงกันว่าจะส่งผลดีต่อตลาดในช่วงสั้นๆเท่านั้น และจะต้องติดตามความคืบหน้าอีกหลายประเด็น โดยบล.บัวหลวงมองหุ้นจะรีบาวด์ได้ระดับหนึ่ง  แต่สุดท้ายยังต้องรอดูความชัดเจนของการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม) รวมทั้งภาพรวมนโยบายที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยน เช่น การปรับโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นต้น

“กลยุทธ์ให้นักลงทุนทยอยสะสมหุ้น เพื่อเล่นรีบาวด์ในช่วงครึ่งหลังของเดือนส.ค.นี้  แนะนำหุ้นสอดคล้องกับโผหุ้นวายุภักษ์ และ Thai ESG ปันผลดี ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น CPALL,SCB, KTB,PTT, AOT เป็นต้น และเพิ่มการเก็งกำไรหุ้นที่พื้นฐานกำไรแกร่ง และ/หรือ Bottom-out มีสัญญาณเติบโตในครึ่งปีหลังเช่น AAV,PLANB, CK, DOHOME เป็นต้น”บล.บัวหลวงระบุ

บล.พาย คาดคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลใหม่เป็นชุดเดิมซึ่งไม่น่าจะมีผลมากนักต่อนโยบายต่างๆ เช่นกองทุนวายุภักษ์ แต่ต้องติดตาม ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งกลุ่มค้าปลีกแม้อาจไม่ได้ประโยชน์จากดิจิทัล แต่ก็จะได้ประโยชน์จากนโยบายอื่นๆ รวมถึงปัจจัยบวกตามฤดูกาล จึงมองเป็นโอกาสสะสมรวมถึงกลุ่มท่องเที่ยว AOT,CENTEL, MINT ศูนย์การค้า CPN ธนาคารพาณิชย์ BBL,KBANK, KTB, SCB การเงิน MTC, SAWAD ส่งออก ITC, TU เครื่องดื่ม ICHI,COCOCO, TACC

บล.เมย์แบงก์คาดกระบวนการจัดตั้งครม.ใช้เวลาราว 3 สัปดาห์ ทำให้นโยบายต่างๆยังถูกขับเคลื่อนได้ต่อ โดยเฉพาะนโยบายตลาดทุน ทั้งกองทุน TESG และการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์หนึ่ง การพิจารณางบประมาณปี 2568 จะไม่ล่าช้า มีเพียงนโยบาย ดิจิทัลวอลเล็ตที่คงต้องติดตามท่าทีจากรัฐบาลใหม่ จะมีผลบวกต่อตลาดหุ้น มองกลุ่มที่ปรับขึ้นได้ดี ได้แก่กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐ CK, TASCO, SCCC กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกองุทน TESG และวายุภักษ์ชอบ TTB, KTB, KBANK, AOT, ADVANC, CPALL, GULF

บล.ทรีนีตี้ มองตลาดเริ่มมีความคาดหวังเชิงบวกหลังได้นายกฯแนะนําติดตามการจัดสรรเก้าอี้คณะรัฐมนตรี  หากใช้โควตาเดิมและกินเวลาไม่นาน ประเมินว่าระดับดัชนี SET 1,270 จุดจะยังเป็นแนวรับสําคัญได้อยู่

 

……………………………………………………………………………………………………..