ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 554 จุด ตัวเลขค้าปลีกสดใส ลดกังวลศก.ถดถอย

ดัชนี S&P500 ปิดที่ ที่ 5,543.22 จุด เพิ่มขึ้น 88.01 จุด, +1.61%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,594.50 จุด เพิ่มขึ้น 401.89 จุด, +2.34%

ยอดค้าปลีกดีกว่าคาดไว้มาก เป็นสัญญานว่าผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง โดยกระทรวงพาณิชย์รายงาน ยอดค้าปลีกเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งฟื้นตัวจากที่ลดลง 0.2% ในเดือนมิถุนายน และดีกว่าการเพิ่มขึ้น 0.4% ที่นักวิเคราะห์คาด

ด้านกระทรวงแรงงานรายงาน จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 7,000 ราย มาที่ 227,000 ราย และต่ำกว่า 236,000 รายที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

ข้อมูลทั้งสองชุดสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและตลาดในวงกว้างที่พยายามฟื้นตัวจากการร่วงลงในเดือนสิงหาคม ด้วยความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว หลังจากรายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่น่าผิดหวังเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม

สเตฟานี รอธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Wolfe Research           ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันพฤหัสบดีว่ายอดค้าปลีกและการขอรับสวัสดิการว่างงานที่แข็งแกร่งในวันนี้ แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่ตกต่ำ แม้โมเมนตัมทางเศรษฐกิจเริ่มลดลง แต่ก็จะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย

อย่างไรก็ตามข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทำให้ความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนกันยายนนั้นลดลง โดยไบรอัน โรส  นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ U.S. Global Wealth Management กล่าวว่า ตลาดแรงงานจะต้องอ่อนตัวลงอีก ถ้าจะให้ เฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในเดือนกันยายน

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้น  6.58% ของ Walmart บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ หลังรายงานผลประกอบการที่สูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์  และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรในปีบัญชี 2024

หุ้น ซิสโก้ซิสเต็มส์ เพิ่มขึ้น กว่า 7% หลังจากประกาศกำไรและรายได้ไตรมาสสี่ในปีบัญชีเงินพุ่งสูงขึ้นและลดจำนวนพนักงานทั่วโลก

หุ้น ไนกี้ พุ่งขึ้นประมาณ 4% หลังจากที่ Pershing Square Capital Management ของ บิล แอคแมน เปิดเผยสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มในบริษัท มากกว่า 3 ล้านหุ้น ณ สิ้นเดือนมิถุนายน คิดเป็นมูลค่าหุ้นประมาณ 229 ล้านดอลลาร์

นักลงทุน จับตาไปที่การให้ความเห็นของ ประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ ในการประชุมประจำปีธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่ แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 22-24 สิงหาคม เพื่อประเมินสัญญานทิศทางดอกเบี้ย

 ตลาดยุโรปปิดบวก จากการปรับขึ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นธนาคาร หลังจากการรายงานข้อมูลยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ และตลาดหลักในภูมิภาคทั้งหมด รวมถึงเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน ก็ปรับขึ้นมากกว่า 1% เช่นกัน

ยอดค้าปลีกสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนกรกฎาคม ทำให้นักลงทุนมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดดอกเบี้ยไม่ถึง 0.50%

กลุ่มเทคโนโลยซึ่งอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นมากสุด โดยเพิ่มขึ้น 2.6% นำโดยหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ เช่น ASML Holding และ  ASM International

กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก และรถยนต์ก็เป็นกลุ่มที่ปรับขึ้นสูงอันดับต้นๆ

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 509.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.78 จุด, +1.15%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,347.35 จุด เพิ่มขึ้น 66.30 จุด, +0.80%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,423.37 จุด เพิ่มขึ้น 90.01 จุด, +1.23%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,183.24 จุด เพิ่มขึ้น 297.64 จุด, +1.66%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ หรือ 1.53% ปิดที่ 78.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 81.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล