NUSA ขาดทุน Q2/67 พุ่งแตะ 256 ลบ. ครึ่งปีอ่วม 383 ลบ.

HoonSmart.com>> “ณุศาศิริ” (NUSA) เปิดงบไตรมาส 2/67 ขาดทุนสุทธิ 256.99 ล้านบาท จากงวดปีก่อนขาดทุน 46.99 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนปี 67 ขาดทุนพุ่งแตะ 383.50 ล้านบาท รายได้เงินปันผลจาก “วินด์เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง” ลดลง รายได้ดอกเบี้ยรับ-กิจการที่เกี่ยวข้องลดลง เหตุตั้งค่าเผื่อหนี้นี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น ด้านต้นทุนขายอสังหาฯ พุ่ง 214 ล้านบาท กว่า 258%

บริษัท ณุศาศิริ (NUSA) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2567 ขาดทุนสุทธิ 256.99 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.02 บาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 46.99 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.004 บาท

ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2567 ขาดทุนสุทธิ 383.50 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.029 บาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 161.81 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.014 บาท

บริษัทฯ ชี้แจงงบกำไรขาดทุนสำหรับงวดสิ้นสุด วันที่ 30 มิ.ย. 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมตามงบการเงินรวม จ านวน 603 ล้านบาท ลดลง 113 ล้านบาท หรือ -16% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจาก

1.รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 139 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 104% จากปีก่อน รายได้โดยส่วนใหญ่เป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ในโครงการเขาใหญ่จ านวน 68 ล้านบาท ขายห้องชุดจำนวน 40 ล้านบาท และการขายเพื่อช าระหนี้แก่เจ้าหนี้ของกลุ่มบริษัทจำนวน 60 ล้านบาท

2.รายได้จากเงินปันผลลดลง 124 ล้านบาท หรือลดลง -76% จากปีก่อน เนื่องจากเงินปันผลรับของเงินลงทุนในตราสารจากบริษัท วินด์เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ประกาศจ่ายครั้งที่ 2 ภายหลังไตรมาสที่ 2 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 จำนวน 10 บาท ต่อหุ้น จึงทำให้เงินปันผลในไตรมาสที่ 2 ลดลง

3. รายได้อื่นลดลง 95 ล้านบาท หรือลดลง -77% จากปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยรับ-กิจการที่เกี่ยวข้องกันเนื่องจากมีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญส่วนที่เพิ่มขึ้นในงวดบัญชีทั้งหมด

ด้านต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์มีจำนวน 297 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 214 ล้านบาท หรือ 258% จากปีก่อน ซึ่งเกิดจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและมีการตั้งค่าเผื่อการลดมูลค่าสินค้า 62 ล้านบาท ของโครงการแห่งหนึ่ง โดยบริษัทมีอัตราขาดทุนขั้นต้นอยู่ที่ 9% ซึ่งลดลงจากปีก่อน 47%

ต้นทุนค่าเช่าและค่าบริการมีจำนวน 131 ล้านบาท ลดลง 2 ล้านบาท หรือ 2% จากปีก่อน โดยบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 9% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14%

ต้นทุนขายสินค้าจำนวน 17 ล้านบาท ลดลง 26 ล้านบาท หรือ -60% จากปีก่อน เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับรายได้ จากการขายที่ลดลง และบริษัทมีอัตราขาดทุนขั้นต้นอยู่ที่ 2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16 โดยต้นทุนขายปีก่อนมีการตั้งค่าเผื่อการลดลงของมูลค่าสินค้ารวมอยู่ด้วย

ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร จำนวน 284 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16 ล้านบาท หรือ 6% เมื่อเทียบจากปีก่อน ส่วนใหญ่เพิ่มจากการดำเนินงานของบริษัทย่อยและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน

ต้นทุนทางการเงินมีจำนวน 161 ล้านบาท ลดลง 40 ล้านบาท หรือ 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งผันแปรตามหนี้สินประเภทเงินกู้ยืมและหุ้นกู้

บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิผลการดำเนินงานรวม สำหรับงวดสิ้นสุด วันที่ 30 มิ.ย.2567 มีผลขาดทุนสุทธิ 400 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 224 ล้านบาท หรือ 127% เมื่อเทียบจากปีก่อน ขณะที่ผลขาดทุนสุทธิ ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ มีผลขาดทุนสุทธิ 383 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจำนวน 222 ล้านบาท เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน