HoonSmart.com>>หุ้น TIDLOR ร่วง 13.38% โบรกฯให้”ลดน้ำหนักลงทุน”มีมุมมองลบต่อผลประกอบการไตรมาส 2/67 จากคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอมาก ส่งปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 68-69 ลงปีละ 3% จากจัดการปัญหาคุณภาพสินทรัพย์นานกว่าคาด เบื้องต้นคาดลากยาวถึงครึ่งแรกปี 68
เมื่อเวลา 10.40 น.หุ้น TIDLOR ร่วง 13.38% มาที่ 13.60 บาท ลดลง 2.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 389.39 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 14.50 บาท ขึ้นสูงสุด 14.70 บาท และต่ำสุด 13.40 บาท
บล.กรุงศรี ปรับคำแนะนำ บริษัท เงินติดล้อ (TIDLOR) เป็น”ลดน้ำหนักลงทุน”มีมุมมอง Negative ต่อผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 เพราะคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอมาก โดยเฉพาะรถบรรทุก ทำให้เห็น NPL formation ขึ้นแรง +49% q-q และ NPL Ratio เพิ่มแรงทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1.86% จากไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ 1.60% อีกทั้งลูกหนี้ stage 2 ที่ 17.27% เพิ่มต่อจากไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ 16.45% รวมทั้งค่าใช้จ่ายสำรอง (credit cost) ที่ 357 bps. จากไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ 328 bps. ภาพรวมกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2567 ที่ 1,091 ล้านบาท ใกล้คาด กำไรเพิ่มขึ้น +18% y-y เพราะการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อรวม และรายได้การขายประกัน ขณะที่กำไรลดลง -1% q-q เพราะค่าใช้จ่ายสำรอง(ECL) จากคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอ ทั้งนี้ ปรับกำไรสุทธิ 2568-2569 ลงปีละ -3% อยู่ที่ 4,124 และ 4,386 ล้านบาท ตามลำดับ จากการจัดการปัญหาคุณภาพสินทรัพย์นานกว่าคาด เบื้องต้นมองลากยาวถึงครึ่งแรกปี 2568 และปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 14.8 บาท
TIDLOR รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2567 ที่ 1,091 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +18% y-y เพราะรายได้ดอกเบี้ย (NII)เพิ่มขึ้น +20% y-y จากการเติบโตของสินเชื่อรวม +18% y-y และ +3% q-q คิดเป็น +6% YTD, รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) เพิ่มขึ้น +14% y-y เพราะรายได้ค่าธรรมเนียมนายหน้าขายประกัน ขณะที่กำไรลดลง -1% q-q เพราะค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) เพิ่มขึ้น +12%q-q จากการตัดจำหน่ายหนี้สูญ (write-off) เพิ่มขึ้น และ NPL Ratio เพิ่มแรงทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1.86% จากไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ 1.60% จากรถบรรทุก กำไรสุทธิครึ่งแรกปี 2567 คิดเป็น 55% ของกำไรสุทธิทั้งปี 2567 คาดที่ 3,988 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +5% y-y