HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก ดาวโจนส์พุ่ง 683 จุด ขานรับตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด ช่วยนักลงทุนคลายกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ บอนด์ยีลด์แตะ 4% ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ WTI”เพิ่มขึ้น ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวกเล็กน้อย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 8 สิงหาคม 2567 ปิดที่ 39,446.49 จุด เพิ่มขึ้น 683.04 จุด หรือ +1.76% หลังการายงานตัวเลขผู้ยื่นรับสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานดีขึ้น
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,319.31 จุด เพิ่มขึ้น 119.81 จุด, +2.30%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,660.02 จุด เพิ่มขึ้น 464.22 จุด, +2.87%
กระทรวงแรงงานรายงาน ว่าจำนวนผู้ยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 17,000 ราย มาที่ 233,000 ราย และต่ำกว่า 241,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด
ข้อมูลดังกล่าวหนุนการซื้อขายในวันพฤหัสบดี เพราะช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี แตะ 4% หลังการเปิดเผยข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงาน ซึ่งเป็นระดับที่เห็นก่อนรายงานการจ้างงานในเดือนกรกฎาคมที่น่าผิดหวังเมื่อวันศุกร์ส่งผลให้ตลาดทรุดตัวลง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุน จากเงินเยนของญี่ปุ่นที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ การแข็งค่าของเงินเยนทำให้เกิดการคืนเงินกู้เงินเยนหรือ unwind carry trade จากกองทุนเฮดจ์ฟันด์นิยม และเป็นสาเหตุหลักที่ตลาดหุ้นตกหนักในวันจันทร์
ลิซ ยัง โทมัส หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของ SoFi กล่าวในรายการ “Closing Bell” ของ CNBC ในวันพฤหัสบดีว่า จากข้อมูลการรับสวัสดิการว่างงาน แสดงให้เห็นว่าตลาดมีความอ่อนไหวต่อข้อมูลทั้งหมดที่เข้ามามากขึ้น ซึ่งบอกด้วยว่าจะได้เห็นความผันผวนมากขึ้นเมื่อได้รับข้อมูลที่อาจขัดแย้งกัน
หุ้น Eli Lilly บริษัทผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 9.5% หลังจากรายงานผลประกอบการที่สูงเกินคาด และปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายยารักษาโรคเบาหวาน Mounjaro และยาลดความอ้วนZepbound จากความต้องการที่แข็งแกร่ง
หุ้น NVIDIA และหุ้นBroadcom ต่างเพิ่มขึ้นมากกว่า 6% หุ้นเมตาแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น 4.2% และหุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น 1.7%
หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น จากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจมากขึ้น หลังจากการรายงานข้อมูลการยื่นรับสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด โดยหุ้นเดลตา แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 6.1% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 6.8% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 6.2% และหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 3.7%
ตลาดจับตาการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกรกฎาคมในสัปดาห์หน้าและการให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการเงินจาก ประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ ในการประชุมประจำปีธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่ แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 22-24 สิงหาคม
ตลาดยุโรปปิดบวกเล็กน้อยและฟื้นตัวจากที่ร่วงลงในช่วงแรก โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ขณะที่กลุ่มเฮลธ์แคร์ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของ Novo Nordisk
ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าความกังวลตลาดแรงงานจะอ่อนตัวลงอย่างมาก และทำให้เกิดความวิตกว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ นั้นมีมากเกินไป
นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อของเยอรมนีในวันศุกร์ ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ขณะที่ใกล้จะเข้าสู่ภาวะถดถอย
หุ้น Novo Nordisk บริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดในยุโรปเพิ่มขึ้น 4.3% ฟื้นตัวจากที่ลดลงเกือบ 7% ในวันพุธ หลังจากคู่แข่งอย่าง Eli Lilly’s ได้เพิ่มการคาดการณ์ยอดขายประจำปี
กลุ่มเฮลธ์แคร์ ปรับขึ้นมากสุด โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้น 8.3% ของ Hikma Pharmaceuticals บริษัทผลิตยาอังกฤษหลังจากคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการทั้งปีที่สดใส
หุ้น Allianz บริษัทประกันของเยอรมนี บวก 2% หลังรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2 ดีเกินคาด
หุ้น Siemens บวก 2.1% หลังเปิดเผยผลประกอบการสูงเกินคาด
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 496.37 จุด เพิ่มขึ้น 0.41 จุด, +0.08%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,144.97 จุด ลดลง 21.91 จุด, -0.27%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,247.45 จุด ลดลง 18.56 จุด, -0.26%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,680.40 จุด เพิ่มขึ้น 65.25 จุด, +0.37%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.28% ปิดที่ 76.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.06% ปิดที่ 79.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล