PHG หุ้นมีอัพไซด์ เทียบกลุ่มรพ….IPO ขายเกลี้ยง 54 ล้านหุ้น

HoonSmart.com >> PHG  หุ้นมีอัพไซด์อื้อ !!! เทียบหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์  (SET) วันที่ 6 ก.ค. 66 

 

เล่นหุ้นไอพีโอเวลานี้ ต้องทำการบ้านมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการลงทุน ธุรกิจต้องเป็นผู้นำตลาด มีโอกาสการเติบโตในอนาคต และที่สำคัญราคาต้องมีอัพไซด์กับนักลงทุน เพื่อก้าวไปพร้อมๆกัน

บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป   (PHG) เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 ที่จะถึงนี้ ถือว่าครบเครื่อง

หลังประสบความสำเร็จในการขายหุ้น IPO จำนวน 54 ล้านหุ้น ราคา 21 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อระหว่าง 28 – 30 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา และเตรียมเข้าเทรดใน SET วันแรก 6 กรกฎาคม 2566 นี้ ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) / การแพทย์ (HELTH)

ทั้งนี้ PHG ประกอบธุรกิจหลักคือให้บริการทางการแพทย์ภายใต้ กลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนกว่า 36 ปี พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบริการทางการแพทย์ทั่วไปและเฉพาะทางกว่า 20 สาขาที่พร้อมให้บริการดูแลรักษา และให้คำปรึกษาสำหรับผู้บริการในทุกๆกลุ่ม

นอกจากนี้ ยังให้บริการศูนย์หัวใจ 24 ชั่วโมงที่มีศักยภาพในการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด หรือ Open Heart Surgery ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านการทำหัตถการรักษาหลอดเลือดโคโรนารีผ่านสายสวน ระดับ 1 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งเดียวใน สปสช. เขต 4 ซึ่งประกอบด้วย นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี และนครนายก

วัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการช่วงปี 2566-2569 ประกอบไปด้วย 1.เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถภายในปี 2567 2.เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 1 ภายในปี 2567

3.เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 2 ภายในปี 2569 4.เพื่อเป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ภายในปี 2567 5.เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงินบางส่วนภายในปี 2566 และ 6.เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจภายในปี 2566

ขณะที่ผลประกอบการสำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563-2565 และสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 104.64 ล้านบาท 317.48 ล้านบาท 293.10 ล้านบาท และ 44.55 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 6.73 ร้อยละ 15.99 ร้อยละ 14.27 และร้อยละ 9.11 ตามลำดับ

นางสาวพิมพ์พิชญธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด ในฐานะเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายร่วม ให้ความเห็นว่า การกำหนดราคาหุ้นที่จะเสนอขายให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO ของ PHG ในราคาหุ้นละ 21.00 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น หรือ Price to Earnings Ratio : P/E เท่ากับ 26.58 เท่า

คำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากกำไรสุทธิในรอบ 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 ซึ่งเท่ากับ 238.24 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ หรือ Fully Diluted ซึ่งเท่ากับ 300,000,000 หุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.79 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิดังกล่าวคำนวณจากผลประกอบการในอดีต โดยที่ยังมิได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ซึ่งราคาเสนอขายในครั้งนี้มีความสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจของ PHG และแผนการนำเงินระดมทุนที่ได้จากประชาชนเป็นครั้งแรกไปใช้ในการขยายธุรกิจในอนาคต ถือว่ามีความเหมาะสมสำหรับนักลงทุน

ถือได้ว่าราคาหุ้น PHG มีอัพไซด์ให้กับนักลงทุนพอสมควร เมื่อเทียบกับ P/E หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่เทรดกันแถว ๆ 31.97 เท่า

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินราคาเหมาะสม PHG ที่ 30.00 บาท อิง 2024E PER ที่ 32x สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ peers ได้แก่ BCH, BDMS, BH, CHG, EKH, และ PR9 ประเมินกําไรปี 2023E-24E จะเติบโตดีหากไม่รวมรายได้พิเศษจากโควิดอยู่ที่ 240 ล้านบาท -17% YoY และ 280 ล้านบาท +25% YoY จาก 1) รายได้ปี 2023E/24E เติบโต +14%/+13% YoY จากผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นจากโรคที่ซับซ้อนทั้งคนไข้เงินสด และคนไข้โครงการภาครัฐ โดยเฉพาะคนไข้โรคหัวใจ ซึ่งทาง PHG มีรายได้หัวใจจากการเข้าร่วมโครงการสปสช. อยู่ที่ 9% ของรายได้รวมปี 2022

“เราคาดปี 2023E รายได้หัวใจอยู่ที่10% ของรายได้รวมปี 2023E และ 12% ในปี 2024E และ 2) GPM ในปี 2023E-24E จะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับภาวะปกติเป็น 27.5% และ 28% จากปี 2019 ที่17.3% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และการบริหารจัดของรพ.ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้ PHG เป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนําในปทุมธานี โดยมีทั้งผู้ป่วยเงินสด (สัดส่วนรายได้ 52%) และโครงการภาครัฐ(สัดส่วนรายได้ 48%) มีความโดดเด่นในการให้บริการโรคหัวใจในทุกระดับความรุนแรงของโรค และมีโรงพยาบาลเฉพาะทางของแม่และเด็ก โดยรพ.สามารถรองรับผู้ป่ วย 270 เตียง และมีโควตาสําหรับผู้ประกันตนอยู่ที[ 156,000 ราย โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังจากการขยายอาคารผู้ป่วยในโครงการอนาคต

ก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 ของ PHG จะยิ่งใหญ่เกรียงไกรแค่ไหน จับตาหลังเข้าจดทะเบียน SET คงได้เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในอนาคตจากแผนการขยายธุรกิจ และการจับมือพันธมิตรเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และขยายฐานรายได้ในอนาคต

ด้านการเสนอขายหุ้น IPO ของ PHG จำนวน 54 ล้านหุ้น วันที่ 28-30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผลการเสนอขายหมดเกลี้ยง

อ่านต่อ : https://hoonsmart.com/archives/314594