นักลงทุนเทขายทั่วเอเชีย โตเกียวร่วง เยนแข็งค่า

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง กังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย นักลงทุนเทขายหุ้นญี่ปุนจากเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปที่ระดับ 145 เยนซึ่งเป็นระดับสูงสุดรอบ 6 เดือน และทั่วโลกวิตกว่าการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดอาจช้าไป

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่สาม ในช่วงหนึ่งดัชนี Nikkei ร่วงลงกว่า 6% จากการรายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะเดียวกันกลุ่มส่งออกถูกเทขายหนักจากเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปที่ระดับ 145 เยนซึ่งเป็นระดับสูงสุดรอบ 6 เดือน

ในช่วง 15 นาทีของการซื้อขายดัชนี Nikkei 225 ดิ่งลง 2,225.41 จุดหรือ 6.20% มาที่ 33,684.29 จุด ส่วนดัชนี Topix ลดลง 178.27 จุดหรือ 7.03% มาที่ 2,359.33 จุด

ดัชนี Nikkei ซึ่งร่วงลงต่ำกว่าระดับ 34,000 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ในช่วงระหว่างวัน ลดลงมากกว่า 2,500 จุดในครั้งเดียว
ในระดับนี้ ทั้ง Nikkei และ Topix กำลังเข้าใกล้สภาวะตลาดหมี (bear market) โดยร่วงลงเกือบ 20% จากระดับ all-time highs ในวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา

หุ้นใหญ่เช่น Mitsubishi, Mitsui&Co, Sumitomo และ Marubeni ต่างร่วงลงมากกว่า 10%
ทุกหมวดหมู่อุตสาหกรรมใน Prime Market ปรับตัวลง นำโดยหุ้นเหมืองแร่ ธนาคาร และการขนส่งทางทะเล

เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีกในตลาดโตเกียวท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐล่าสุดที่อ่อนแอ และธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก
BOJ กำหนดเผยแพร่รายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือนมิถุนายนในวันนี้

เวลา 9.00 น. ตามเวลาญี่ปุ่น เงินดอลลาร์อยู่ที่ 145.57-60 เยนจาก 146.43-53 เยนในตลาดนิวยอร์ก และ 149.20-23 เยนในตลาดโตเกียว เวลา 17.00 น. วันศุกร์
ณ เวลา 8.37 น. ในประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 33,700.8 จุด ลดลง 2,208.9 จุด , -6.15%

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงทั้งภูมิภาคจากแรงเทขายที่ต่อเนื่อง นำโดยตลาดโตเกียว จากความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างมาก ทำให้นักลงทุนทั่วโลกวิตกว่าการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดอาจช้าไป

เมื่อวันศุกร์กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นเพียง 114,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่า 185,000 ตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 และสูงกว่า 4.1%ที่นักวิเคราะห์คาด

ข้อมูลเมื่อวันศุกร์เป็นตัวบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

ไบรอัน โรส นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสฝ่าย wealth management ของ UBS Group AG กล่าวว่า ด้วยอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อ PCE พื้นฐานในขณะนี้ต่ำกว่าการคาดการณ์สิ้นปีของเฟด ก็เชื่อว่าความสมดุลของความเสี่ยงเอื้อต่อการดำเนินการเชิงรุกมากขึ้นของเฟด และได้ปรับคาดการณ์กรณีฐานเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%ในเดือนกันยายน และ 0.25% ทั้งในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม
นักลงทุนยังรอข้อมูลการค้าที่สำคัญจากจีนและไต้หวันในสัปดาห์นี้ และการตัดสินใจของธนาคารกลางจากออสเตรเลียและอินเดีย ขณะที่ในวันนี้ S&P Global จะเปิดเผยตัวเลขกิจกรรมภาคบริการสำหรับประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาค รวมถึงอินเดียและจีน

ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายช่วงเช้าวันจันทร์ หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียขึ้นราคาน้ำมันดิบที่ขายให้กับเอเชีย และท่ามกลางรายงานที่ว่าอิหร่านอาจโจมตีอิสราเอลเพื่อล้างแค้นในการลอบสังหารเจ้าหน้าที่ฮิซบอลเลาะห์และฮามาส หุ้นซาอุดีอาระเบียและอิสราเอลร่วงลงมากกว่า 2% ในวันอาทิตย์

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 2,905.29 จุด ลดลง 0.05 จุด, -0.00%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 16,676.82 จุด ลดลง 268.69 จุด, -1.59%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,558.63 จุด ลดลง 117.56 จุด, -4.49%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ 20,267.4 จุด ลดลง 1,370.69 จุด, -6.33%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.03 ดอลลาร์ หรือ 0.04% ซื้อขายที่ 73.55 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 0.11 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ซื้อขายที่ 76.92ดอลลาร์ต่อบาร์เรล