HoonSmart.com>> “ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม” (PTTEP) โชว์กำไรไตรมาส 2/67 กว่า 23,978 ล้านบาท เติบโต 13.96% ปริมาณขายอยู่ที่ 506,709 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ด้านราคาขายเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้น พร้อมคาดการณ์ไตรมาส 3/67 ปริมาณขายเฉลี่ยที่ 484,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ส่วนงวด 6 เดือน กำไร 42,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% บอร์ดเคาะจ่ายปันผลระหว่างกาลอัตรา 4.50 บาท ขึ้น XD 13 ส.ค.นี้ จ่ายเงิน 28 ส.ค.67
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 23,977.68 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 6.04 บาท เพิ่มขึ้น 13.96% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไร 21,039.61 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.86 บาท
ส่วนงวด 6 เดือนปี 2567 กำไรสุทธิ 42,660.49 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 10.75 บาท เพิ่มขึ้น 5.80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 40,321.00ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.72 บาท
ในงวดไตรมาส2/2567 บริษัทฯ มีปริมาณการขายเฉลี่ยไตรมาส 2/67 ที่ 506,709 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยหลักจากโครงการจี/61 ที่เพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติในเดือน มิ.ย. 2566 และมี.ค. 2567 รวมถึงราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3% เป็น 47.01 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ โดยหลักเนื่องจากราคาขายน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นตามราคาตลาด ในขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติลดลงเล็กน้อย
บริษัทฯ คาดการณ์ปริมาณขายเฉลี่ยสำหรับไตรมาส 3/67 อยู่ที่ประมาณ 484,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน และทั้งปี 2567 อยู่ที่ 501,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2566 โดยหลักจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขายในประเทศไทย ได้แก่ ความสำเร็จในการเพิ่มกำลังการผลิตของโครงการจี 1/61 (เอราวัณ) สู่ระดับ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567ซึ่งเร็วกว่าแผนงาน และโครงการบี 8/32 ที่กลับมาดำเนินการผลิตได้ตามปกติได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 หลังจากหยุดผลิตชั่วคราวจากปัญหาเรือรับก๊าซธรรมชาติของผู้ดำเนินการ รวมถึงปริมาณขายตามสัดส่วนการร่วมทุนที่เพิ่มขึ้นของโครงการยาดานาหลังจากผู้ร่วมทุนยุติการลงทุน
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ผลประกอบการในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้รวม 166,887 ล้านบาท (เทียบเท่า 4,608 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ) มีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 489,879 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มอัตราการผลิตปิโตรเลียมของโครงการ G1/61 สู่ระดับ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันตามสัญญาแบ่งปันผลผลิต ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนราคาขายผลิตภัณฑ์ปรับตัวลงเล็กน้อยจากราคาขายก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง
ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมีกำไรสุทธิ 42,660 ล้านบาท (เทียบเท่า 1,177 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) อยู่ที่ 28.6 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ โดยมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคาที่ร้อยละ 76
“คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ปี 2567 ที่ 4.50 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรับสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 14 ส.ค.2567 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 ส.ค.2567” นายมนตรี กล่าว
ในรอบครึ่งปีแรกของปี 2567 ปตท.สผ. ยังได้นำส่งรายได้ให้กับรัฐในรูปของภาษีเงินได้ ค่าภาคหลวง และส่วนแบ่งผลประโยชน์อื่น ๆ จำนวนกว่า 30,170 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาชุมชน การศึกษา และการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น นอกจากนี้ ส่วนแบ่งของผลผลิตปิโตรเลียมจากโครงการ G1/61 และ G2/61 ภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ยังเป็นรายได้อีกส่วนหนึ่งที่รัฐได้รับโดยตรงจากการผลิตปิโตรเลียม เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศอีกด้วย