บล.ทรีนีตี้ คาดหุ้น Q3/66 ผันผวน-วอลุ่มเทรดต่ำ-ฟันด์โฟลว์ยังไม่เข้า

HoonSmart.com>>บล.ทรีนีตี้ คาดตลาดหุ้นไตรมาส 3/66 ผันผวน-วอลุ่มเทรดต่ำ รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย-การปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียน ส่ง Valuation ของดัชนีฯยังไม่น่าสนใจ, Fund flow ยังไม่เข้า แนะใช้กลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อตามกรอบแนวต้าน 1,570-1,600 แนวรับ 1,490-1,450 จุด พร้อมให้ระวังบริษัทที่มีภาระหนี้สูง กระแสเงินสดอิสระต่ำ อาจเผชิญกับความเสี่ยงสภาพคล่อง-ต้นทุนการเงินสูงขึ้น

บล.ทรีนีตี้ ประเมินตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 3/66 จะอยู่ในช่วงจุดตัดทางแยกที่น่าสนใจ เนื่องจากน่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ทั้งปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศ และแนวนโยบายการเงินของประเทศสำคัญรวมถึงของไทย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีมุมมองเชิงลบมากนักต่อภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ แต่เมื่อมาเทียบกับสิ่งที่นักลงทุนในตลาดทุน Price in อยู่ ณ วันนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดยังคงมีการ Under-price ในส่วนของความเสี่ยงหลาย ๆ ด้านอยู่

ทั้งนี้ คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยจะมีความผันผวน และปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับต่ำต่อไป ทั้งจากการมีส่วนร่วมของนักลงทุนประเภท High Frequency Trade ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงสภาพคล่องภายในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ โดยมองการเคลื่อนไหวของดัชนี SET ในไตรมาสนี้มีโอกาสปรับตัว Sideways ถึง Sideways down

ในช่วงแรกจากปัจจัยกดดัน 2 ปัจจัยที่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ทั้งปรากฏการณ์ De-rating ที่มาจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของไทยติดต่อกัน และการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ยังคงเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ส่งผลให้ Valuation ของดัชนี SET ยังดูไม่น่าสนใจ และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ยังไม่เห็นการไหลเข้ามาของ Fund flow ในตลาดหุ้นไทยอย่างสำคัญ

ส่วนประเด็นในรายของหุ้น DELTA นั้น เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ Valuation ของตลาดหุ้นไทยดูแพงเกินกว่าความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม ได้ทำการศึกษาโดยถอดหุ้น DELTA ออก พบว่า Valuation ของหุ้นที่เหลือก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่ถือว่าถูกมากจนน่าสนใจแต่อย่างใด โดยยังคงอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ย 1 ปีที่ผ่านมา

จึงแนะนำนักลงทุนใช้กลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อตามกรอบแนวต้าน-แนวรับต่อไป ซึ่งยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ดีสำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วงหลายปีหลังนี้ ประเมินกรอบแนวต้านแรกของดัชนี SET ที่ระดับ 1,570 จุด และแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,600 จุด ในทางกลับกัน มองกรอบแนวรับแรกที่น่าสนใจได้แก่บริเวณ 1,490 จุด และแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,450 จุด ในเชิงของตัวหุ้น แนะนำนักลงทุนมองหาจังหวะการเข้าสะสมในหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมาแรงเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน

ปัจจัยเฝ้าระวังในช่วงถัดไปได้แก่ บริษัทที่มีภาระหนี้สูง กระแสเงินสดอิสระต่ำ เนื่องจากอาจเผชิญกับความเสี่ยงทางด้านสภาพคล่อง และความเสี่ยงทางด้านต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจนอาจส่งผลกดดันมายังผลประกอบการของบริษัทได้