ดาวโจนส์ลบ 4 จุด เฟดย้ำเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย BoE ขึ้นมากกว่าคาด

HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 4 จุด Nasdaq  เพิ่มขึ้น 128.41 จุด เฟดย้ำเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย นักลงทุนมองมีโอกาสขึ้น 0.25% ในการประชุมเดือนก.ค.นี้ ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ(BoE) ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% เป็น 5.00% มากกว่าคาด เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่สูง กดดันตลาดหุ้นยุโรป  ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 3.02 ดอลลาร์ หรือ 4.16% ปิดที่ 69.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 22 มิ.ย. 2566 ที่ 33,946.71 จุด ลดลง 4.81 จุด หรือ 0.01% จากการปรับลดลงของกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มการเงินหลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงยึดนโยบายการเงินตึงตัวในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา และส่งสัญญาณว่าเฟดยังไม่ยุติวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,381.89 จุด เพิ่มขึ้น 16.20 จุด, +0.37%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,630.61 จุด เพิ่มขึ้น 128.41 จุด, +0.95% ด้วยการปรับขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยี จากการเข้าช้อนซื้อของนักลงทุนหลังปิดลบติดต่อกันสามวัน

หุ้นแอมะซอนบวกกว่า 4% หุ้นไมโครซอฟต์เพิ่มข้นกว่า 1.8% และหุ้นแอปเปิลบวกกว่า 1%

ชัค คาร์ลสัน ซีอีโอของ Horizon Investment Services กล่าวว่า ตลาดกำลังพยายามย่อยความเห็นของนายพาวเวลล์ต่อความเป็นไปได้ที่ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

นายพาวเวลล์ซึ่งแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารวุฒิสภาได้ย้ำมุมมองของเขาว่า มีแนวโน้มจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับการให้ความเห็นของผู้ว่าการเฟด มิเชล โบว์แมน ในช่วงต้นการซื้อขาย

นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเกินคาด เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงนั้นยังเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจโลก โดยที่ประชุมเมื่อวานนี้มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็น 5.00% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 และเป็นครั้งที่ 13 ติดต่อกัน

เมแกน ฮอร์นแมน ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนจาก Verdence Capital Advisors กล่าวว่า ตลาดอ่อนตัว เพราะตระหนักว่าไม่เพียงแค่เฟดเท่านั้น แต่ธนาคารกลางทั่วโลกยังไม่เสร็จสิ้นการปรับขึ้นดอกเบี้ย และแท้จริงแล้วยังมุ่งมั่นเต็มที่ที่จะต่อสู้กับเงินเฟ้อ รวมทั้งยอมแลกกับการเติบโตของเศรษฐกิจหากจำเป็น

FedWatch tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนมองว่ามีโอกาส 77% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกรกฎาคม

ในกลุ่มอุตสาหกรรมหุ้นโบอิ้ง ลดลง 3.05% หุ้นแคทเธอพิลลาร์ ลดลง 1.7% หุ้น 3M ลดลง 1.02% ส่วนในกลุ่มการเงินหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 1.66% หุ้นเจพีมอร์แกน ลดลง 1.93%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเผยแพร่เมื่อวานนี้กระทรวงแรงงานรายงานการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วว่ามีจำนวน 264,000 รายไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ(NAR) รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 0.2% มาที่ 4.3 ล้านยูนิต เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาที่ 4.25 ล้านยูนิต

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ และลดไปแตะระดับต่ำสุดของวันอยู่ช่วงหนึ่ง ด้วยความกังวลว่าธนาคารกลางของประเทศหลักยังคงดำเนินนโยบายการเงินตึงตัว หลังธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่คาด สะท้อนว่าผู้กำกับนโยบายทั่วโลกยังมุมมั่นต่อสู้กับเงินเฟ้อ

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันธนาคารกลางนอร์เวย์ และธนาคารสวิตเซอร์แลนด์ต่างปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปที่ระดับสูงสุดอย่างที่ไม่ได้เห็นมาร่วมทศวรรษ ขณะเดียวกันนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดยังได้ย้ำในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐว่าเฟดยังไม่ลดดอกเบี้ยในปีนี้จนกว่าเงินเฟ้อลงมาที่เป้าหมาย 2%

หุ้นกลุ่มธนาคารลดลง 1.9%

ดอยช์แบงก์ลดลง 1.4% หลังมีแผนลดพนักงานในธุรกิจรายย่อยในเยอรมนีลง 10% จาก 17,000 ใน 2-3 ปีข้างหน้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 454.70 จุด ลดลง 2.31 จุด, -0.51%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,502.03 จุด ลดลง 57.15 จุด, -0.76%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,203.28 จุด ลดลง 57.69 จุด, -0.79%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,988.16 จุด ลดลง 34.97 จุด, -0.22%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 3.02 ดอลลาร์ หรือ 4.16% ปิดที่ 69.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 2.98 ดอลลาร์ หรือ 3.86% ปิดที่ 74.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล