“คิงส์ฟอร์ด”คาดดัชนีทรงตัวก่อนวันหยุดยาว แนะ PRM-KCG

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนีทรงตัวช่วงวันหยุดปลายสัปดาห์ และรอการทยอยรายงานงบ Q2/67 ของกลุ่ม Real Sector ดัชนีมีแนวต้าน 1,300 จุด ส่วนแนวรับ 1,285 – 1,290 จุด แนะทยอยซื้อ 7 หุ้นเด่นช่วงดัชนีอ่อนตัว พร้อมเสิร์ฟหุ้นวันนี้ PRM-KCG

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,285 – 1,290 จุด แนวต้าน 1,300 จุด ประเมินดัชนีทรงตัวในช่วงวันหยุดปลายสัปดาห์ และรอการทยอยรายงานงบ Q2/67 ของกลุ่ม Real Sector แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,DOHOME ท่องเที่ยว MINT,CENTEL ไอซีที ADVANC,THCOM

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA +0.20%, S&P500 -0.51%, Nasdaq -0.93% ฟื้นตัวตอบรับรายงาน US GDP Q2/67 +2.8% สูงกว่าคาด +2.1% & Q1/67 +1.4% QoQ ได้แรงหนุนจากการบริโภคและลงทุนภาคเอกชน ขณะที่ US PCE Q2/67 อยู่ที่ 2.6% ชะลอตัวจาก Q1/67 ที่ 3.4% YoY และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 10,000 อยู่ที่ 235,000 ต่ำกว่าคาดที่ 237,000 ราย บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวดีและสามารถคุมเงินเฟ้อได้ดี (Soft Landing) นักลงทุนสหรัฐได้มีปรับพอร์ตการลงทุนจากกลุ่มเทคโนโลยีที่ Valuation สูงเข้าสู่กลุ่มหุ้นมี Maket Cap.ต่ำที่คาดกำไรฟื้นได้ดีจากแนวโน้มเฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย.

ปัจจัยสำคัญวันนี้ติดตาม US PCE มิ.ย. คาด 2.4% และพ.ค. 2.6% YoY

หุ้นแนะนำ ได้แก่ PRM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.25 บาท) แนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีคาดเติบโต YoY ได้ทุกไตรมาส หนุนจากรายได้เพิ่มขึ้นของธุรกิจ Offshore support (OVS) เรือ AWB ใหม่เริ่มให้บริการตั้งแต่กลางเดือน ม.ค.และจะมีเรือ Hybrid Crew Boat ใหม่อีก 2 ลำ เริ่มให้บริการในช่วงปลาย 1Q67- ต้น 2Q67 ส่วนธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันดิบ (COC) และธุรกิจขนส่งน้ำมันและปิโตรเคมีเหลว (PCT) จากเรือ VLCC และเรือปิโตร 2 ลำ ผ่านช่วง dry dock ส่วนธุรกิจ FSU U-rate อยู่ในระดับสูงและมีแผนซื้อเรือเพิ่มในช่วง 2H67

ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรปี 67 ที่ 2 พันล้านบาท แม้ชะลอลงจากปีก่อนที่มีกำไรพิเศษจากการขายเรือ แต่หากถ้าคิดกำไรปกติจะยังคงมีการเติบโต รวมถึงมีแผนที่ตัดหุ้นจากโครงการซื้อหุ้นคืนทั้งหมดจะทำให้ EPS เพิ่มขึ้น 8%

หุ้น KCG (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 12.53 บาท) แนวโน้มการดำเนินงานยังมีปัจจัยหนุนต่อเนื่อง YoY จาก 1.ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park ที่เริ่มเปิดใช้งาน(คาดช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการเช่าคลังข้างนอกปีละราว 50 ล้านบาท) 2.ระดับราคาต้นทุนวัตถุดิบหลัก(เช่น แป้งสาลี, น้ำมันปาล์ม, น้ำมันเนย) ที่ยังอยู่ในระดับไม่สูงเกินไป 3.การปรับปรุง Production line ให้เป็น automatic มากขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของ KCG* เองวางเป้ารายได้ปี 67นี้ +10%YoY และ ตลาดคาดว่าในปี 67 และ68 กำไรสุทธิของ KCG* จะอยู่ที่ระดับ 380 ล้านบาท (+24.33%YoY) และ 439 ล้านบาท (+15.43%YoY)