HoonSmart.com>>ส.อ.ท.หั่นเป้าผลิตรถยนต์ในปีนี้ลง 10.5%เหลือ 1.7 แสนคัน หลังปรับลดเฉพาะขายในไทยหายไป 2 แสนคันจากหลายปัจจัยลบ คงเป้าส่งออก 1.15 ล้านคัน ส่วนยอดผลิตเดือนมิ.ย. 116,289 คัน ลดลง 20.11% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 7.82% จากเดือนพ.ค. เพราะผลิตเพื่อขายในประเทศได้ 34,522 คัน ลดลง 43.08% จากปีก่อน ขายได้ 47,662 คัน เพิ่มขึ้น 4.43% จากเดือนพ.ค. แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 26.04% โดยเฉพาะรถกระบะดิ่ง 36.44%
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2567 จาก 1.9 ล้านคัน เป็น 1.7 ล้านคัน ลดลง 2 แสนคัน คิดเป็นลดลง 10.53% โดยเป็นการปรับเป้าเฉพาะผลิตขายในประเทศลดลงจาก 7.5 แสนคัน เหลือ 5.5 แสนคัน
ส่วนการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออก ยังคงเป้าหมายเดิมที่ 1.15 ล้านคัน เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากการที่ยอดขายรถยนต์ของประเทศคู่ค้า 3 ใน 4 ของตลาดส่งออกยังเติบโต เช่น ออสเตรเลีย สหรัฐฯ ยุโรป ตะวันออกกลาง เป็นต้น ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศจีนยังเติบโต ส่งผลดีต่อประเทศในเอเชีย ที่มีสัดส่วนถึง 28% ของรถยนต์ที่ไทยส่งออก และยังคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงด้วย แต่ยังต้องจับตาปัจจัยลบ โดยเฉพาะสงครามการค้า และสงครามยูเครนกับรัสเซียและสงครามอิสราเอลกับฮามาสที่อาจบานปลาย
สาเหตุที่ลดเป้าหมายการขายรถยนต์ในประเทศลงถึง 2 แสนคัน เนื่องจากมีปัจจัยลบ ได้แก่
1.หนี้ครัวเรือนสูงถึง 90% ของ GDP ประเทศ ขณะที่รายได้ครัวเรือนยังต่ำจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ
2.การลงทุนจากต่างประเทศรวมทั้งดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังลดลงมาหลายเดือนแล้ว คนงานมีรายได้ลดลง ประชาชนระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น
3.หน่วยงานเศรษฐกิจหลายแห่งลดการเติบโตทางเศรษฐกิจลง
4.สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์โดยเฉพาะรถกระบะ
5.จำนวนแรงงานวัยทำงานน้อยกว่าเพื่อนบ้านจากอัตราการเกิดต่ำ ทำให้นักลงทุนลังเลในการลงทุนเพราะเป็นสังคมสูงอายุ
สำหรับยอดผลิตรถยนต์ในเดือนมิ.ย. 2567 มีทั้งสิ้น 116,289 คัน ลดลง 20.11% จากเดือนมิ.ย. 2566 และลดลง 7.82% จากเดือนพ.ค. 2567 จากการผลิตขายในประเทศที่ลดลงถึง 43.08% ตามยอดขายที่ลดลง 26% และผลิตส่งออกลดลง 3.70% ส่วนจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนม.ค.-มิ.ย. 67 มีจำนวนทั้งสิ้น 761,240 คัน ลดลง 17.39% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ มีทั้งสิ้น 47,662 คัน เพิ่มขึ้น 4.43% จากเดือนพ.ค. 2567 แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 26.04% เนื่องจากรถกระบะที่ขายลดลงถึง 36.44% และรถ PPV ลดลง 49.98% จากหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และเศรษฐกิจเติบโตในอัตราต่ำ สถาบันการเงินจึงระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อ โดยเฉพาะรถกระบะและรถบรรทุก
ส่วนยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 89,071 คัน ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 0.24% แต่เพิ่มขึ้น 0.28% จากเดือนมิ.ย. 2566 รวม 6 เดือนส่งออกได้ทั้งหมด 519,040 คัน ลดลง1.85% โดยมีมูลค่าการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 363,474.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.42% เพราะมีหลายประเทศหันมาสนใจรถยนต์ไฮบริดมากขึ้น ล่าสุดยอดขายไฮบริดเป็น 2 เท่าของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว