HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,540 กรณียืนได้ คาด Sideway Up แนวต้าน 1,570 – 1,575 จุด ลุ้นสัปดาห์นี้หากกกต.รับรอง สส. ได้ครบคาดเป็นต่อบวกต่อภาวะการลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นแนะนำซื้อเก็งกำไร GPSC แนวโน้มไตรมาส 2 นี้คาดยังได้แรงหนุนจากต้นทุนพลังงานที่ทยอยปรับลดลง ตลาดคาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวเด่น หุ้น PLUS คาดไตรมาส 2-3 ฟื้นตัวได้ดีจากการเข้าสู่ High Season
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,540 กรณียืนได้ คาด Sideway Up ไปที่แนวต้าน 1,570 – 1,575 จุด สัปดาห์นี้หาก กกต.สามารถรับรอง สส. ได้ครบคาดเป็นต่อบวกต่อภาวะการลงทุน แนะนำทยอยซื้อ PTTGC, SCC, SCGP, TOP, BCP, HANA, KCE คาดได้ประโยชน์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน กลุ่มอุปโภค CPALL, BJC, OSP กลุ่มนำเข้า SET50 – 100 WHA,TLI,STEC
หุ้นแนะนำได้แก่ GPSC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 76.50 บาท) รายงานผลประกอบการ 1Q66 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 1.1 พันล้านบาท จาก 4Q65 ที่ขาดทุนสุทธิ 436 ล้านบาท หนุนจากการปรับขึ้นค่า Ft งวดเดือน ม.ค.-เม.ย.66 จำนวน 61.49 สตางค์ต่อหน่วย ประกอบกับต้นทุนก๊าซฯ และถ่านหินลดลง ส่งผลให้ margin จากการขายไฟฟ้าลูกค้ากลุ่ม IU ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลง และส่วนแบ่งกำไรจาก AEPL เพิ่มขึ้น
ส่วนแนวโน้ม 2Q66 คาดยังได้แรงหนุนจากต้นทุนพลังงานที่ทยอยปรับลดลง ส่วนปริมาณขายไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มขึ้นเนื่องจากลูกค้าอุตสาหกรรมไม่มีหยุดซ่อมบำรุง ประกอบกับกำไรจาก AEPL เพิ่มขึ้น น่าจะช่วยลดผลกระทบจากการปรับลดค่า Ft งวด พ.ค.-ส.ค.66 ลงได้ ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 66 อยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท ฟื้นตัวเด่นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 891 ล้านบาท
หุ้น PLUS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.35 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q66 อยู่ที่ 8.2 ลบ. (-83%YoY, -73% QoQ) จากยอดขายที่ลดลงหลังช่วง 1Q66 ฤดูหนาวใน USA (ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของ PLUS*) ยาวนานผิดปกติส่งผลต่อ demand สินค้าเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตามคาดว่า 2Q-3Q66 จะเห็นการฟื้นตัวได้ดีจากการเข้าสู่ High Season
นอกจากนี้ ปี66 จะเป็นปีที่เกิดปรากฏการณ์ เอลนีโญ(หลัง ลานีญา 3ปีที่ผ่านมา) ส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยโลกปรับสูงขึ้นมาก เป็นบวกต่อสินค้าเครื่องดื่ม โดยปีนี้คาดว่าทาง PLUS จะมีการเริ่มเดินเครื่อง สายการผลิตขวดพลาสติก (PET) ที่มีการทำเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี66 และ 67 ของ PLUS จะอยู่ที่ 198 ล้านบาท (-4%YoY) และ 262 ล้านบาท (+32%YoY) ตามลำดับ