HoonSmart.com>> 3 ตลาดหุ้นสหรัฐทรุดลงแรง ดาวโจนส์ดิ่ง 533 จุดตามแรงขายหุ้นทั่วกระดาน ด้านหุ้นยุโรปติดลบ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมันดิบลดลงเล็กน้อย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 18 ก.ค. 2567 ปิดที่ 40,665.02 จุด ลดลง 533.06 จุด หรือ -1.29% จากการเทขายในวงกว้างทั่วกระดาน ทั้งในหุ้น blue-chip และหุ้นเล็กท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนด้วยความวิตกต่อความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐ
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ ,544.59 จุด ลดลง 43.68 จุด, -0.78%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,871.22 จุด ลดลง 125.70 จุด, -0.70%
หุ้น 10 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใน S&P 500 ปรับตัวลง มีเพียงกลุ่มพลังงานเพียงกลุ่มเดียว เพิ่มขึ้น 0.3%
แรงขายหุ้นมีมากขึ้น จากหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับลงอีก และความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการหาเสียงของประธานาธิบดีโจ ไบเดนสำหรับการเลือกตั้งสมัยที่สองในทำเนียบขาว
ปีเตอร์ คาร์ดิลโล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การตลาดของ Spartan Capital กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ MarketWatchว่า โอกาสที่ไบเดนจะถอนตัวออกจากการลงชิงชัยประธานาธิบดี ภายในสุดสัปดาห์
นักวิเคราะห์มองว่าการปรับขึ้นของตลาดหุ้นล่าสุด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มมากขึ้นว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน หลังจากไบเดนทำผลงานได้ไม่ดีในการดีเบตเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา และเหตุการณ์ลอบสังหารทรัมป์ ที่เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การปรับตัวแทนจากพรรรเดโมแครตอาจทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งมากขึ้น
บรรยากาศการซื้อขายผันผวน โดยดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน โดยอยู่ที่ 16.20 ในการซื้อขายช่วงบ่าย ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน ตามข้อมูลของ FactSet แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวราว 20
สตีฟ โซสนิก หัวหน้านักกลยุทธ์ของ Interactive Brokers กล่าวว่า การที่ VIX เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บ่งชี้ว่านักลงทุนมองว่ายังมีความผันผวนในช่วง 30 วันข้างหน้า จากความกังวลด้านผลการดำเนินงานและการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 31 ก.ค.นี้
พันธบัตรรัฐบาลทั้งอายุ 2-30 ปีถูกขายออกเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี เนื่องจากเทรดเดอร์ประเมินว่าเฟดอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงน้อยกว่าที่คาด อัตราผลตอบแทน 2 ปีเพิ่มขึ้น มาที่ 4.459% หลังจากในวันพุธที่ระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 กุมพันธ์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น มาที่ 4.188% หลังจากวันพุธปิดที่ระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 20,000 ราย มาที่ 243,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2023 และสูงกว่า 229,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด
หุ้น Domino’s Pizza ร่วงลง 13.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ต่ำกว่าคาด
หุ้น Warner Bros. Discovery บวก 2.4% หลังมีรายงานว่าบริษัทกำลังวางแผนแยกธุรกิจดิจิทัลสตรีมมิงและธุรกิจสตูดิโอ ออกจากเครือข่ายทีวี
ตลาดยุโรปปิดลบเป็นวันที่สาม จากการเทขายหุ้นชิปอย่างต่อเนื่องและกลบการปรับขึ้นจากการรายงานผลการดำเนินงานในเชิงบวกของบริษัทจดทะเบียน ในขณะที่นักลงทุนประเมินการตัดสินใจล่าสุดของธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในการคงอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี STOXX 600 ปิดลบเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน
ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสบดีตามการคาดการณ์ของตลาด โดยคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ระดับ 3.75%และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 4.50% ส่วนอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์อยู่ที่ระดับ 4.25%
แต่ ECB กล่าวว่าการประชุมในเดือนก.ย. “เปิดกว้าง” เนื่องจากได้ปรับลดมคาดการณ์แนวโน้มทางเศรษฐกิจของยูโรโซน และคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงลดลงต่อเนื่อง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลง ขณะที่เงินยูโรอ่อนค่า 0.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยลดลง 1.8% จากหุ้นชิป ASML, ASM International และ BE Semiconductor ปรับตัวลง
หุ้นกลุ่มรถยนต์บวก 1.2% สวนทางตลาด จากการปรับขึ้น 11% ของหุ้นVolvo Carsของสวีเดน หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 สูงกว่าคาด
หุ้น Nokia ของฟินแลนด์ ลดลง 5% หลังรายงานผลกำไรรายไตรมาส ร่วงลง 32%
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 514.01 จุด ลดลง 0.82 จุด, -0.16%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,204.89 จุด เพิ่มขึ้น 17.43 จุด, +0.21%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,586.55 จุด เพิ่มขึ้น 15.74 จุด, +0.21%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,354.76 จุด ลดลง 82.54 จุด, -0.45%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 85.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล