“คิงส์ฟอร์ด”คาดกลุ่มพลังงานหนุนดัชนีรับน้ำมันพุ่ง แนะ COCOCO-GFPT

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนี SET ถูกกดดันจากกลุ่มอิเล็กฯ ที่ปรับลดลงตาม Nasdaq กังวลสหรัฐจะใช้มาตรการคุมเข้มการส่งออกชิปไปตลาดจีน แต่คาดได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ แนวต้าน 1,330 จุด ส่วนแนวรับ 1,310 – 1,315 จุด แนะเก็งกำไร SPRC,BSRC รับค่าการกลั่นสิงค์โปร์ทรงตัว พร้อมเสิร์ฟหุ้นวันนี้ COCOCO, GFPT

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,310 – 1,315 จุด แนวต้าน 1,330 จุด คาดดัชนีถูกกดดันจากกลุ่มอิเล็ก ฯ ที่ปรับลดลงตาม Nasdaq แต่คาดได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ และรอรายงานกำไร Q2/67 ของกลุ่มธนาคาร แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอุปโภค เช่น CPALL,CPAXT,OSP,COCOCO และเก็งกำไร SPRC,BSRC จากค่าการกลั่นสิงค์โปร์ทรงตัวที่ 4.00 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส.ค. เพิ่มขึ้น 2.09 อยู่ที่ 82.85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล , Brent ก.ย. เพิ่มขึ้น 1.35 อยู่ที่ 85.08 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ได้แรงหนุนหลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 4.9 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่ 3 หมื่นบาร์เรล สัญญาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุน Dollar Index อ่อนค่า -0.50% อยู่ที่ 103.747

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA +0.59% S&P500 -1.39%, Nasdaq -2.77% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -3.7%,บริการสื่อสาร -2.1% และดัชนีเซมิ ฯ ในตลาดฟิลาเดลเฟีย -6.8% หลังประธานาธิบดีไบเดนเตรียมใช้ มาตรการคุมเข้มห้ามบริษัทจีนเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐ ขณะที่ดัชนี DJIA ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากรายงานกำไร Q2/67 ที่ดีกว่าคาดของ UnitedHealth Group, Johnson & Johnson ดันหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภค, พลังาน หลังนักลงทุนสลับเม็ดเงินออกจากกลุ่มเทคโนโลยี, ผู้ผลิตชิป ขณะที่ดัชนี

ขณะที่ความเห็นของคณะกรรมการเฟด คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ชี้ดอกเบี้ยสหรัฐจะลดลงในไม่ช้า โดยรอประเมินข้อมูลเศรษฐกิจในช่วง 2 – 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งเพิ่มน้ำหนักการลดดอกเบี้ยใน ก.ย.สัปดาห์นี้ติดตามรายงาน Fed Beige Book ,ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐ มิ.ย.

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ COCOCO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 15.20 บาท) แนวโน้มยอดขายและกำไรใน 2Q67 จะกลับมาเติบโตได้ดีทั้ง QoQ, YoY หนุนจากการผ่านช่วง low season ใน 1Q67 สินค้าประเภทน้ำมะพร้าวยังคงขายดีและช่วยสร้าง GPM ให้ดีขึ้นตามU-rate และ product mixed ที่เปลี่ยนไป ขณะที่อาหารสัตว์เลี้ยงพลิกเป็นกำไรได้ตั้งแต่ 1Q67 แล้ว ส่วนทิศทาง 2H67 มีโอกาสดีขึ้นต่อเข้าช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯ ยุโรป รวมถึงขยายไลน์สินค้าใหม่กลุ่มน้ำมะพร้าวแบบกระป๋องและขวด PET ไอศกรีมผลไม้ เข้าตลาดจีนเพิ่ม

ทั้งนี้บริษัทคาดรายได้ปีนี้เติบโต 30-40%YoY เป็นไปตามทิศทางของคำสั่งซื้อที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประเมิน U-rate 64% และสิ้นปี 67 กำลังการผลิตสินค้าน้ำมะพร้าวสูงสุดจะอยู่ที่ 2.95 แสนตัน/ปี มองรายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปี (2569) ทั้งนี้จาก Consensus ตลาดคาดกำไรปี 66-67 ที่ 920 ล้านบาท +70%YoY และ 1.28 พันล้านบาท +39%YoY

หุ้น GFPT (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 15.00 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q67 +QoQ +YoY ปัจจัยบวกหลัก คือ เนื้อไก่แปรรูปส่งออกที่ Volume ขาย +20.3%YoY(+กลุ่มลูกค้า UK/EU) ขณะที่ฝั่ง Equity Icome +115%YoY จากการส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุกของทั้ง GFN และ McKey ด้านการดำเนินงาน 2Q67 คาดว่าจะยังอยูในเกณฑ์ดี มูลค่าการส่งออกของไทยเดือนเม.ย.-พ.ค.67 ไก่สด +2%YoY(คิดเป็น 63%เทียบ 1Q67) ไก่แปรรูป+21%YoY(คิดเป็น 72%เทียบ 1Q67) ส่วนราคาขายไก่ไทยยังมีแนวโน้มที่ดี

ปัจจุบันตลาดคาดว่าในปี 67 และ68 กำไรสุทธิของ GFPT* จะอยู่ที่ระดับ 1,625 ล้านบาท (+18.1%YoY) และ 1,732 ล้านบาท (+6.6%YoY) ตามลำดับ